fbpx
News update

เส้นทางความสำเร็จแฟรนไชส์ชาไข่มุกไทย “ชามิจิ” ถึง “ชาไข่มุกดอทคอม” สู่ One Stop Solution ธุรกิจเครื่องดื่ม

Onlinenewstime.com : จากแรงบันดาลใจของหนุ่มลูกครึ่งไทย–ไต้หวัน สมชาย เจริญทั้งเอกวงศ์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ทีอีเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ชาไข่มุกชื่อดังอย่าง “ชามิจิ” และ “ชาไข่มุกดอทคอม” (CHAKAIMUK.COM) ธุรกิจที่เริ่มต้นด้วยเงินทุนเพียง 1 ล้านบาท วันนี้ได้เติบโตเป็นแบรนด์ชาไข่มุกสัญชาติไทยที่ขยายไปกว่า 20 ประเทศทั่วโลก

แม้ต้องเผชิญวิกฤตโควิด-19 “ชาไข่มุกดอทคอม” ไม่เพียงยืนหยัดอยู่รอด แต่ยังพลิกสถานการณ์ให้เป็นโอกาส จนกลายเป็นโมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ต้นแบบของ SME ไทย ด้วยกลยุทธ์การปรับตัวที่ตอบโจทย์ทั้ง B2B และ B2C พร้อมขยายสาขาทะลุ 3,000 แห่งทั่วประเทศ

กำเนิดธุรกิจจากแรงบันดาลใจในไต้หวัน

“ทุกแก้วที่ขายได้ คือการสร้างอาชีพให้คนไทย” คือคำที่สมชายยึดมั่นมาตลอดกว่า 12 ปีในเส้นทางธุรกิจชานม

จุดเริ่มต้นของแรงบันดาลใจเกิดขึ้นเมื่อเขาไปศึกษาต่อที่ไต้หวัน และได้ทำงานในร้านชานมชื่อ “โคคิเตะ” (Kokite) ก่อนจะนำประสบการณ์กลับมาพัฒนาแบรนด์ชาไข่มุกไทยภายใต้ชื่อ “ชามิจิ” (Chamichi) ที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามทั้งในและต่างประเทศ ภายในเวลาเพียง 3 ปี สามารถขยายสาขาได้กว่า 1,000 แห่ง ในไทย ลาว เวียดนาม และกัมพูชา

จาก“ชามิจิ”ขยายสู่ “ชาไข่มุกดอทคอม” สร้างอาชีพในวิกฤตโควิด

ในปี 2563 วิกฤตโควิด-19 กลับกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ “สมชาย” ตัดสินใจเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “ชาไข่มุกดอทคอม” เพื่อตอบโจทย์ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการตกงานสามารถซื้อ แฟรนไชส์ไปเปิดร้านในบ้านเกิดได้ กลายเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันที่ช่วยสร้างอาชีพให้คนไทยในช่วงเวลาที่ยากลำบาก

การต่อยอดแนวคิดและสร้างแบรนด์ใหม่“สร้างอาชีพให้คนไทย”ที่หลายคนต้องเผชิญกับภาวะตกงานหรือรายได้ลดลง แฟรนไชส์นี้จึงถูกออกแบบให้เปิดร้านได้ง่ายอย่างอิสระ

มีทั้งรูปแบบร้านค้าและคีออส ลงทุนไม่สูง ไม่มีสัญญาผูกมัดหรือค่าแฟรนไชส์รายปี และทุกคนสามารถจับต้องได้ ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 9,900 บาท ไปจนถึงระดับ 200,000 บาท โดยแพ็คเกจยอดนิยมคือ ราคา 48,900 บาท ซึ่งได้รับความสนใจมากที่สุดจากผู้เริ่มต้นธุรกิจ และปัจจุบันมีสาขาแฟรนไชส์กว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศ และรวมกับแบรนด์เดิมทะลุ 3,000 สาขา

“เราอยากให้คนไทยมีธุรกิจของตัวเองได้ง่ายที่สุด แม้จะเริ่มจากศูนย์ก็ตาม”

ก้าวสู่ One Stop Solution: จาก B2C สู่ B2B

บริษัทมีทั้งศูนย์เรียนรู้แฟรนไชส์และศูนย์จำหน่ายวัตถุดิบในกรุงเทพฯ รวมถึงช่องทางออนไลน์ เพื่อรองรับผู้ประกอบการทั่วประเทศ

เมื่อธุรกิจเริ่มมั่นคง บริษัทได้ปรับโมเดลจาก B2C สู่ B2B เพื่อเป็น One Stop Solution ด้านวัตถุดิบและแฟรนไชส์เครื่องดื่มครบวงจร

ปัจจุบันรายได้กว่า 80% มาจากการจำหน่ายวัตถุดิบ เช่น ใบชา ไซรัป และท็อปปิ้ง ที่ได้รับมาตรฐาน Superior Taste Award จากประเทศเบลเยียม ส่วนอีก 20% มาจากแฟรนไชส์ ซึ่งยังคงขยายอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น ลาว พม่า อินเดีย อินโดนีเซีย และสวิตเซอร์แลนด์ ฯลฯ พร้อมแผนขยายตลาดเพิ่มเติมในภูมิภาคอาเซียน

กลยุทธ์เติบโตจากแฟรนไชส์สู่ตลาดโลก

เพื่อกระจายความเสี่ยงจากตลาดในประเทศที่เริ่มอิ่มตัว บริษัทวางแผนขยายสาขาไปยังภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมีศักยภาพสูง มีประชากรรวมกันกว่า 6,600 ล้านคน (เทียบกับไทย 60 ล้านคน) จะช่วยลดความเสี่ยงได้ โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มกว่า 1,000 แห่งภายใน 3–5 ปี

ขณะเดียวกัน ยังลงทุนขยายโรงงานและคลังสินค้าในไทย เพื่อรองรับการผลิตวัตถุดิบสำหรับส่งออก รวมถึงพัฒนาเมนูใหม่และนวัตกรรมเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ เช่น ชาผลไม้ และชาข้าวหอม

เทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจ–ขายได้ 24 ชั่วโมง

การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลคืออีกหนึ่งจุดแข็ง ที่เราได้พัฒนา แอปพลิเคชัน “ชาไข่มุกดอทคอม” เพื่อให้ลูกค้าแฟรนไชส์สามารถสั่งวัตถุดิบได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเชื่อมต่อช่องทาง E-commerce อย่าง Shopee, Lazada และ TikTok

นอกจากนี้ยังมีทีมบริการหลังบ้านให้คำปรึกษาตลอดเวลา ไม่ว่าจะซื้อหรือไม่ซื้อสินค้า ซึ่งสะท้อนจุดยืนของแบรนด์ที่เน้น “บริการมากกว่าการขาย”

กลยุทธ์ปรับตัว SME ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจ ชาไข่มุกดอทคอม กับแนวคิด “ยิ่งวิกฤติ ยิ่งต้องรีวิวตัวเอง”

ในยุคที่เศรษฐกิจชะลอตัวและการแข่งขันรุนแรง ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ทั่วประเทศต่างต้องเร่งปรับตัวเพื่อความอยู่รอด หนึ่งในตัวอย่างที่โดดเด่นของ“ชาไข่มุกดอทคอม” แบรนด์แฟรนไชส์ชาไข่มุกสัญชาติไทย ภายใต้การบริหารของTEA Corporation ที่ยืนหยัดอยู่ในตลาดมากว่า 12 ปี

บริษัทเชื่อว่า “การปรับตัว” คือหัวใจของความสำเร็จ โดยเฉพาะในช่วงที่ตลาดไม่เอื้ออำนวย ยอดขายชะลอตัว หรือพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

ปรับภายในองค์กร เสริมความแข็งแรงจากฐานราก

แทนที่จะมองวิกฤติเป็นอุปสรรค ชาไข่มุกดอทคอมใช้โอกาสนี้ “รีวิวองค์กร” ทั้งระบบ ตั้งแต่การปรับปรุงกระบวนการทำงาน การพัฒนาทีมให้มีความเชี่ยวชาญ ไปจนถึงการยกระดับคุณภาพวัตถุดิบ เพื่อให้พร้อมเต็มที่เมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัว

“ช่วงยอดขายชะลอ เราไม่หยุด แต่ใช้เวลาเหล่านั้นทบทวน ปรับปรุง และเตรียมพร้อม เพื่อให้บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นเมื่อโอกาสกลับมา” สมชาย ผู้บริหาร TEA Corporation กล่าว

อัปเดตเมนูเร็ว ตอบเทรนด์สุขภาพ

ในยุคที่เครื่องดื่มกลายเป็น “แฟชั่น”และตลาดของชาไข่มุกในไทยมีการแข่งขันสูง แต่ชาไข่มุกดอทคอม ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ณัฐธิดา นักบุญอร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ทีอีเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยกลยุทธ์การทำตลาดว่า เพราะว่าเราให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบและราคาที่เข้าถึงได้

พร้อมพัฒนาเมนูใหม่ ๆ ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพ โดยเพิ่มเมนู “ชาเพื่อสุขภาพ” เช่น ชาข้าวหอม และ ชาผลไม้ พร้อมให้ลูกค้าปรับระดับความหวานได้ทุกเมนู

อีกทั้งตามเทรนด์ตลาด เช่น เมนูกาแฟและเครื่องดื่มหมวดใหม่ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่

จากเมนูยอดนิยมของแบรนด์คือ “ชานมไข่มุกสูตรลาวา” ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเหนียวนุ่มของไข่มุกและรสชาติชานมเข้มข้น ชาไข่มุกดอทคอมยังมีทีม R&D ที่พร้อมอัปเดตเมนูใหม่ทุกไตรมาส และปรับสูตรทันทีหากมีเทรนด์ใหม่เกิดขึ้น เช่น เมนูเผือกหรือโกโก้พรีเมียม ปัจจุบันแบรนด์มีเมนูมากกว่า 105 รายการ ตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและแฟรนไชส์ซีทั่วประเทศ

บริหารต้นทุนอย่างยืดหยุ่น รักษาโอกาสผู้ประกอบการ

ท่ามกลางต้นทุนวัตถุดิบที่ผันผวน บริษัทเลือกแนวทาง “ลดขนาดสินค้าแทนการขึ้นราคา” เพื่อไม่ให้ภาระตกอยู่กับลูกค้าแฟรนไชส์ พร้อมวางระบบบริหารจัดการที่ช่วยให้คู่ค้าควบคุมต้นทุนและรักษาคุณภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“เราเชื่อว่าการปรับตัวให้ทันก่อนที่ตลาดจะเปลี่ยน คือหัวใจของการอยู่รอดในยุคนี้”

ด้วยแนวคิด “ปรับให้ทันก่อนตลาดเปลี่ยน” และการบริหารเชิงรุกจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ ชาไข่มุกดอทคอม กลายเป็นหนึ่งในตัวอย่าง SME ไทย ที่ยืนหยัดได้ท่ามกลางวิกฤต และยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในธุรกิจแฟรนไชส์เครื่องดื่ม

บสย. ค้ำประกันช่วยต่อยอดทุน เติบโตไม่สะดุด

การที่ชาไข่มุกดอทคอม ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟรนไชส์ชาไข่มุกที่เติบโตเร็วและมีจำนวนสาขามากที่สุดอันดับต้นๆ ในประเทศไทย

จากธุรกิจเล็ก ๆ ที่เริ่มต้นด้วยความตั้งใจ “อยากให้คนไทยมีอาชีพ” วันนี้ ชาไข่มุกดอทคอม ได้กลายเป็นแบรนด์แฟรนไชส์ที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศ และกำลังก้าวต่อไปสู่เวทีโลกอย่างมั่นใจ

เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ รวมทั้งการการพัฒนาเมนูใหม่ ๆ เพื่อรับการขยายตัวของตลาดเครื่องดื่มในประเทศ บริษัทได้ขอสินเชื่อจากหลายธนาคาร อาทิ SME D Bank, LH Bank, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารเกียรตินาคิน บริษัทได้รับการสนับสนุนจาก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม จำกัด (บสย.) ในการค้ำประกันสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นแรงหนุนสำคัญที่ช่วยให้บริษัทเติบโตและยืนหยัดในตลาดได้อย่างมั่นคง

สมชายเล่าว่า การได้รับการค้ำประกันนี้ช่วยให้บริษัทมีสภาพคล่อง สามารถซื้อวัตถุดิบและพัฒนาเมนูใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง

“บสย. เป็นแรงผลักสำคัญที่ทำให้เราไม่เพียงรอดจากวิกฤต แต่ยังเติบโตได้อย่างมั่นคง”

สู่อนาคตของชาไทยในตลาดโลก

ด้วยวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่น “ชาไข่มุกดอทคอม” ไม่เพียงสร้างอาชีพให้ผู้คนจำนวนมาก แต่ยังสะท้อนศักยภาพของธุรกิจ SME ไทยที่สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในเวทีโลก

จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ด้วยเงินทุนเพียง 1 ล้านบาท วันนี้แบรนด์ไทยแบรนด์นี้ได้พิสูจน์แล้วว่า ความคิดสร้างสรรค์–การปรับตัว–และหัวใจผู้ประกอบการ คือส่วนผสมที่ทำให้ “ชาไทยยังคงมีเสน่ห์ มีที่ยืน และเติบโตในตลาดโลก”