
Onlinenewstime.com : “ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกันยายน 2568 สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคในระยะ 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและภาคใต้ เป็นผลจากแนวโน้มเศรษฐกิจในภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ควรติดตามประเด็นสภาพอากาศที่แปรปรวน ความผันผวนของเศรษฐกิจและการค้าโลก และความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล”
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกันยายน 2568 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคพบว่า
“ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนกันยายน 2568 สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคในระยะ 6 เดือนข้างหน้าที่ยังขยายตัวได้ โดยเฉพาะในภาคตะวันออกและภาคใต้ เป็นผลจากแนวโน้มเศรษฐกิจในภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น
ทั้งนี้ ควรติดตามประเด็นสภาพอากาศที่แปรปรวน ความผันผวนของเศรษฐกิจและการค้าโลก และความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล” โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออก
อยู่ที่ระดับ 75.4 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ โดยเฉพาะในภาคบริการและการลงทุน เนื่องจากจะยังอยู่ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งมีการจัดงานเทศกาลในหลายพื้นที่ ประกอบกับมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการลงทุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและโครงสร้างพื้นฐานจากภาครัฐและเอกชน
รวมถึงคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม และนโยบายรัฐที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูง ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของอุปสงค์และการลงทุนในประเทศ ส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 79.9
ขณะเดียวกันดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคใต้
อยู่ที่ระดับ 71.0 โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจากความเชื่อมั่นในภาคบริการและการลงทุน เนื่องจากจะยังอยู่ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว ประกอบกับคาดว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศจะปรับตัวดีขึ้นจากนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาลชุดใหม่
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคเหนือ
อยู่ที่ระดับ 70.9 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ขยายตัวได้ โดยเฉพาะในภาคบริการและการจ้างงาน จากความคาดหวังในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ประกอบกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันตก
อยู่ที่ระดับ 67.8 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจที่ปรับตัวได้ดี โดยมีแรงสนับสนุนจากภาคบริการและภาคเกษตร เนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูการท่องเที่ยว และมีปัจจัยบวกจากมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจ กระตุ้นการบริโภค ส่งเสริมภาคการท่องเที่ยวและภาคเกษตรที่คาดว่าจะมีต่อเนื่อง ประกอบกับความต้องการสินค้าเกษตรที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อยู่ที่ระดับ 67.3 โดยมีแรงสนับสนุนจากภาคเกษตรและภาคบริการเป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ และคาดว่าจะมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก รวมถึงมีแรงส่งจากมาตรการสนับสนุนเกษตรกรจากภาครัฐ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายเพิ่มเติม และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและงานเทศกาลที่มีต่อเนื่อง นอกจากนี้ การเปิดใช้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 คาดว่าจะเป็นโอกาสให้ส่งออกสินค้าได้มากขึ้น
ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภาคกลาง
อยู่ที่ระดับ 65.6 โดยมีแรงสนับสนุนจากภาคเกษตรและการจ้างงาน จากสภาพอากาศที่คาดว่า จะเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูก โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรที่สำคัญ อีกทั้งมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ ซึ่งรวมถึงภาคเกษตรจะช่วยลดความเสี่ยงด้านการผลิตและเอื้อต่อการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสินค้าเกษตร
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล
อยู่ที่ระดับ 57.4 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจไทยยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจและการค้าโลก ทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์การเมืองในประเทศ ความแปรปรวนของสภาพอากาศ ราคาต้นทุนการผลิตและค่าครองชีพ และสถานการณ์หนี้ครัวเรือน
ตารางสรุปดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค ประจำเดือนกันยายน 2568
