fbpx
News update

ดัชนีความเชื่อมั่นเศรษฐกิจภูมิภาค พ.ค. 68 ชี้ “เหนือ-ตะวันออก” โตจากท่องเที่ยว ขณะที่หนี้ครัวเรือนยังท้าทาย

Onlinenewstime.com : ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (Thailand Regional Economic Sentiment Index: RSI) ประจำเดือนพฤษภาคม 2568 สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคใน 6 เดือนข้างหน้าที่ขยายตัวได้ในภาคเหนือและภาคตะวันออก จากปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจภูมิภาคยังมีปัจจัยท้าทายจากมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศมหาอำนาจ ความผันผวนของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพฤษภาคม 2568 จากการประมวลผลข้อมูลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจรายจังหวัดจากสำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเพื่อจัดทำดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคพบว่า

“ดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนพฤษภาคม 2568 สะท้อนแนวโน้มเศรษฐกิจภูมิภาคใน 6 เดือนข้างหน้าที่ขยายตัวได้ในภาคเหนือและภาคตะวันออกจากปัจจัยสนับสนุนด้านการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจภูมิภาคยังมีปัจจัยท้าทายจากมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศมหาอำนาจ ความผันผวนของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง” โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

อยู่ที่ระดับ 74.8 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคบริการและภาคอุตสาหกรรม จากการจัดงานและเทศกาลดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อมาสัมผัสธรรมชาติและอากาศที่เริ่มหนาวของภาครัฐและภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งจะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว

ทำให้มีวัตถุดิบป้อนเข้าสู่โรงงานแปรรูปเพิ่มขึ้น ประกอบกับความต้องการสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัว และมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจของภาครัฐที่คาดว่าจะมีต่อเนื่อง

อยู่ที่ระดับ 71.5 สะท้อนความเชื่อมั่นเศรษฐกิจในอนาคตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคบริการและภาคเกษตร จากการจัดกิจกรรมและนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐและเอกชน มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรและผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรของรัฐบาล และความต้องการสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้นจากทั้งในและต่างประเทศ

โดยเฉพาะเมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งเป็นสภาพอากาศที่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวและการออกเรือจับสัตว์น้ำ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)2 ยังอยู่ในระดับสูงที่ 71.9

อยู่ที่ระดับ 70.7 จากปัจจัยสนับสนุนในภาคบริการและภาคการลงทุน โดยคาดว่า รัฐบาลจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายเพิ่มเติม รวมถึงมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง

อยู่ที่ระดับ 69.8 โดยมีแรงสนับสนุนจากความเชื่อมั่นในภาคบริการและภาคเกษตร โดยเฉพาะเมื่อจะเข้าสู่ฤดูการท่องเที่ยวในช่วงปลายปี ซึ่งภาครัฐและภาคเอกชนมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในหลายพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นช่วงฤดูเก็บเกี่ยวผลผลิตการเกษตร ขณะที่อุปสงค์สินค้าเกษตรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

อยู่ที่ระดับ 66.6 โดยมีแรงขับเคลื่อนจากความเชื่อมั่นในภาคการเกษตรและภาคบริการ อันเป็นผลจากแนวโน้มความต้องการสินค้าเกษตรจากทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับมาตรการภาครัฐเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวทั้งในเมืองหลักและเมืองรองทั่วประเทศ

อยู่ที่ระดับ 66.6 โดยคาดว่า จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นในภาคบริการเป็นสำคัญ ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการดำเนินมาตรการทางภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ

ชะลอตัวที่ระดับ 59.2 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความเชื่อมั่นในภาคการลงทุนและภาคบริการ ทั้งนี้ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศยังเผชิญความเสี่ยง จากมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศมหาอำนาจ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งทาง ภูมิรัฐศาสตร์ และระดับหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงเป็นสำคัญ