
Onlinenewstime.com : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับบริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินโครงการ “กินอยู่ปลอดภัย”เพื่อรณรงค์ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและประชาชน ตระหนักถึงความปลอดภัยของอาหาร การปนเปื้อนในอาหารและใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่ใช้โฟม ถุง หรือกล่องบรรจุภัณฑ์พลาสติก ที่อาจเสี่ยงให้เกิดสารปนเปื้อนในอาหาร เพื่อลดปริมาณขยะหลังพบช่วงโควิด 19 มีขยะเพิ่ม 6,300 ตันต่อวัน
แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยภายหลังพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินโครงการ “กินอยู่ปลอดภัย” ระหว่าง กรมอนามัย ร่วมกับบริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ณ ห้องประชุมสมบูรณ์ วัชโรทัย อาคาร 1 ชั้น 2 กรมอนามัย ว่า จากมาตรการผ่อนปรนสถานประกอบกิจการประเภทต่าง ๆ ของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 หรือ ศบค. หนึ่งในนั้นคือสถานประกอบการประเภทร้านอาหาร รถเข็น หาบเร่ แผงลอย ที่ต้องคุมเข้มด้านความสะอาด ปลอดภัย และปฏิบัติตามแนวทางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
เพราะสถานที่จำหน่ายอาหารดังกล่าว เป็นสถานที่ที่มีคนมาจากหลากหลายพื้นที่ และมีความเสี่ยงการปนเปื้อนเชื้อโรค โดยที่ผ่านมา ตามมาตรการของศบค. นั้น กำหนดให้ร้านอาหารต่าง ๆ จำหน่ายอาหารแบบซื้อกลับบ้าน เพื่อป้องกันการรวมตัวและลดความแออัด
ซึ่งพบว่าสถานที่จำหน่ายอาหารรูปแบบเดลิเวอรีในช่วงนี้ ส่งผลให้เกิดปริมาณขยะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะขยะพลาสติก เช่น กล่องพลาสติกใส่อาหาร ช้อน ส้อม แก้ว หลอดดูด มีปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 6,300 ตันต่อวัน เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ประมาณ 1,500 ตันต่อวัน

“กรมอนามัยจึงขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการร้านอาหารกำจัดขยะให้ถูกวิธี และปรับเปลี่ยนจากภาชนะใส่อาหารประเภทพลาสติก มาใช้ผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น ปิ่นโต เพื่อลดปริมาณขยะ หรือทดแทนด้วยผลิตภัณฑ์ ที่ทำจากธรรมชาติ เช่น ชานอ้อย มันสำปะหลัง และพลาสติกชีวภาพย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากในประเทศ หรือต่างประเทศ สำหรับใช้กับอาหาร ส่วนผลิตภัณฑ์ทางเลือกที่นำมาบรรจุอาหาร เช่น ชานอ้อย มันสำปะหลัง และพลาสติกชีวภาพนั้น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาใช้บรรจุอาหารเพียงครั้งเดียว ไม่สามารถใช้ซ้ำได้แต่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ” อธิบดีกรมอนามัย กล่าว
ทางด้าน นายแพทย์วีรฉัตร กิตติรัตนไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภาชีวะเกรซ กล่าวว่า เนื่องจากบริษัทเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ภาชีวะจากเยื่อพืชธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่เคลือบพลาสติก ปลอดภัย และสามารถย่อยสลายด้วยการฝังกลบดินได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ภายในระยะเวลา 45 วัน ที่ตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัย ทั้งต่อสุขภาพและต่อสิ่งแวดล้อม
ดังนั้น การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการดำเนินโครงการ “กินอยู่ปลอดภัย” ระหว่างกรมอนามัย กับบริษัท บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ ถือเป็นการรณรงค์ให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและประชาชน ตระหนักถึงความปลอดภัยของอาหาร การปนเปื้อนในอาหาร
และใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น การไม่ใช้โฟม ถุง หรือกล่องบรรจุภัณฑ์พลาสติก ที่อาจเสี่ยงให้เกิดสารปนเปื้อนในอาหาร รวมทั้งส่งเสริมความรู้ แก่ผู้ประกอบการร้านอาหารและประชาชน ในการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการแยกขยะที่ถูกต้อง เพื่อไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมตามมาในระยะยาว