
Onlinenewstime.com : เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี จับมือเป็นพันธมิตรระดับโลกรายแรกกับ The Ocean Cleanup เพื่อร่วมกันทำงาน ในโครงการทำความสะอาดแม่น้ำ เดินหน้าแนะนำและดำเนินการติดตั้งนวัตกรรมเครื่อง Interceptor เครื่องทำความสะอาดแม่น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ในแม่น้ำ 15 แห่งทั่วโลก ให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2565
มุ่งผสานพลังองค์กรระดับโลกของโคคา-โคล่า เข้ากับโซลูชันข้อมูล และเทคโนโลยีของ The Ocean Cleanup เพื่อบรรลุเป้าหมายสำคัญเดียวกัน ในการป้องกันและดักจับขยะพลาสติกจากแม่น้ำ ไม่ให้รั่วไหลลงสู่มหาสมุทร พร้อมระดมกำลังภาคอุตสาหกรรมและภาคประชาชนทั่วโลก สร้างการมีส่วนร่วมด้านปัญหาขยะพลาสติก ควบคู่ไปกับการดูแลระบบนิเวศ สิ่งมีชีวิต และแหล่งน้ำต่าง ๆ
นายโบแยน สแลต ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้งองค์กร The Ocean Cleanup กล่าวว่า “ปัจจุบัน แม่น้ำกว่า 1,000 แห่งทั่วโลกปล่อยขยะพลาสติกลงสู่มหาสมุทร เป็นปริมาณสูงถึงร้อยละ 80 ของขยะในมหาสมุทรทั้งหมด และมีทีท่าจะทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน
ภายใต้ภารกิจสำคัญในการกำจัดขยะพลาสติกในมหาสมุทร องค์กรจึงต้องเดินหน้าแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน โดยจากจำนวนขยะที่รวบรวมได้ในระบบ พบว่าจำนวนมาก เป็นขวดพลาสติกซึ่งรวมถึงบรรจุภัณฑ์ของโคคา-โคล่าด้วย นั่นจึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับ The Ocean Cleanup และมหาสมุทรทั่วโลก ที่โคคา-โคล่าได้เข้ามาเป็นพันธมิตรรายแรกของอุตสาหกรรม เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกจากการจัดการปัญหาขยะพลาสติกระดับโลกนี้ไปด้วยกัน โดยองค์กร จะนำการเรียนรู้ที่มีประโยชน์จากความร่วมมือในครั้งนี้ ไปพัฒนา ต่อยอด และขยายการดำเนินงานอย่างรวดเร็วในอนาคตต่อไป”
Interceptor เปิดตัวครั้งแรกในปี 2562 โดยเป็นนวัตกรรมที่ช่วยป้องกันไม่ให้ขยะพลาสติกจากแม่น้ำต่างๆ รั่วไหลลงสู่มหาสมุทร Interceptor ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ 100% และมีระบบดักเก็บขยะได้โดยอัตโนมัติ ด้วยเหตุนี้ Interceptor จึงสามารถใช้ได้ดีกับแม่น้ำที่มีปัญหามลพิษจากขยะอย่างรุนแรง ในเกือบทุกพื้นที่ทั่วโลก ตลอดจนมีศักยภาพที่จะพัฒนามาสู่การใช้งานจริงในวงกว้าง
นายเจมส์ ควินซี่ย์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำด้านเครื่องดื่มระดับโลก โคคา-โคล่ามุ่งมั่นดำเนินงานในด้านต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่า วัสดุที่ใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด จะถูกรวบรวมและนำกลับมาใช้ใหม่อย่างเหมาะสม ไม่กลายเป็นขยะเล็ดลอดออกไปยังสิ่งแวดล้อม โคคา-โคล่าจึงพร้อมสนับสนุนทีมงานและเทคโนโลยีของ The Ocean Cleanup เพื่อปกป้องระบบนิเวศทางทะเล รักษาแหล่งน้ำที่มีค่าของโลกใบนี้”
ในปัจจุบัน โคคา–โคล่า กำลังดำเนินการแบบบูรณาการในการจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกผ่านวิสัยทัศน์ระดับโลก World Without Waste โดยมีเป้าหมายหลักคือ
1) ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% ก่อนปี 2568 และใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวัสดุรีไซเคิลไม่น้อยกว่า 50% ก่อนปี 2573
2) จัดเก็บบรรจุภัณฑ์เพื่อนำมารีไซเคิล ในปริมาณเทียบเท่ากับบรรจุภัณฑ์ที่จำหน่ายออกสู่ตลาดให้ได้ก่อนปี 2573 และ
3) ประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่สะอาด ปราศจากขยะมูลฝอยทั้งบนพื้นดินและในทะเล
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้านวัสดุบรรจุภัณฑ์และนวัตกรรมไร้บรรจุภัณฑ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรีไซเคิล เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบาพิเศษ เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์จากพืช รวมถึงนวัตกรรมเครื่องจำหน่ายเครื่องดื่ม โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทได้ตั้งเป้าลดการใช้พลาสติกบริสุทธิ์จากเชื้อเพลิงฟอสซิลทั่วโลกลง 20% จากปริมาณการใช้ในปัจจุบันให้ได้ภายในปี 2568 [1] อีกด้วย
และเพื่อตอบรับวิสัยทัศน์ดังกล่าว โคคา-โคล่ายังมุ่งให้ความช่วยเหลือ และเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับหน่วยงานระดับโลกมากมาย เพื่อจัดการกับปัญหาขยะพลาสติกผ่านการปฏิบัติงาน และการระดมความคิด เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุด จากทั้งภาคประชาสังคม ภาคอุตสาหกรรม และภาครัฐ
โดยมีเป้าหมายคือส่งเสริมให้คนหันมารีไซเคิล และนำขยะกลับมาใช้ใหม่ รวมถึงผลักดันให้องค์กรต่างๆ หันมาลงทุนในเศรษฐกิจหมุนเวียนมากขึ้น เพื่อคงคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และวัสดุที่ไม่ได้ใช้แล้ว ให้สามารถกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตได้อย่างถูกต้อง ไม่กลายเป็นขยะอีกต่อไป
มร.ไบรอัน สมิทธิ์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ เดอะโคคา-โคล่า คัมปะนี กล่าวเสริมว่า “The Ocean Cleanup เป็นองค์กรที่มีวิสัยทัศน์ชัดเจน มีเทคโนโลยีที่ได้รับการรับรอ งและเหมาะสมสำหรับภารกิจในการกำจัดขยะพลาสติกในมหาสมุทร โคคา-โคล่า ก็มีทีมงานในพื้นที่ ที่พร้อมร่วมทำการติดตั้งเครื่อง Interceptor ในแม่น้ำทั่วโลก รวมถึงมีความพร้อมในด้านกระบวนการรีไซเคิลขยะที่รวบรวมได้
การที่จะได้เห็นพนักงานโคคา-โคล่าจากทั่วโลก ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติงานในระดับท้องถิ่น รวมถึงเป็นกระบอกเสียงในการทำภารกิจที่จะขยายใหญ่ขึ้น นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าตื่นเต้น โดยโคคา-โคล่าเชื่อมั่นว่าการทำงานร่วมกันในครั้งนี้ จะสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างแท้จริง”
ภายใต้การจับมือเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ ทั้งสององค์กรได้ตั้งเป้าช่วยกันกำจัดขยะในแม่น้ำ 15 แห่งทั่วโลกภายในสิ้นปี 2565 โดยมีการนำร่องติดตั้งเครื่อง Interceptor ไปแล้ว 2 เครื่องในแม่น้ำที่กรุงซันโตโดมิงโก สาธารณรัฐโดมินิกัน และนครเกิ่นเทอ ประเทศเวียดนาม และจะร่วมกันพัฒนาโซลูชันจัดการขยะที่รวบรวมได้ รวมถึงวางแผนขยายการดำเนินงาน ไปยังแม่น้ำอีก 13 แห่งผ่านการทำงานร่วมกัน
โดย The Ocean Cleanup จะใช้ความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีรวบรวมพลาสติก ข้อมูลต่าง ๆ ที่ได้จากการติดตั้งเครื่อง Interceptor รวมถึงวิเคราะห์ปัญหา และหลักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับขยะพลาสติก ขณะที่โคคา-โคล่า จะเสริมแกร่งด้านการปฏิบัติงานด้วยเครือข่ายมากกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ที่พร้อมลงพื้นที่สร้างความเข้าใจแก่ชุมชนเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่อง Interceptor
รวมถึงใช้ความเชี่ยวชาญจัดการกับขยะพลาสติกที่รวบรวมได้ เพื่อสนับสนุนหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน พร้อมร่วมกันสรรหาพันธมิตรและการลงทุนที่จำเป็นเพิ่มเติม เพื่อขยายการดำเนินงานด้วยการติดตั้งเครื่อง Interceptor รวมถึงสนับสนุนการออกใบอนุญาตและติดตั้งกล้อง River Monitoring System (RMS) เพื่อวิเคราะห์มลพิษในแม่น้ำเพิ่มเติมต่อไป
[1] ขึ้นอยู่กับการเติบโตของธุรกิจ