Onlinenewstime.com : วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ประกาศเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ล่าสุด Volvo EX30 รถพรีเมียม SUV ขนาดเล็กที่สร้างคาร์บอนฟุตพรินท์ (carbon footprint) น้อยที่สุดที่เคยมีมาในรถวอลโว่ ผ่านเทคโนโลยีและดีไซน์การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนเพื่อมอบความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และความเพลิดเพลินในการขับขี่ที่มากขึ้นแก่ผู้ใช้งานวอลโว่
นายคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย กล่าวว่า“เราเชื่อว่า Volvo EX30 จะเป็นรถที่ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าและตลาดของแบรนด์วอลโว่ในประเทศไทยให้เพิ่มขึ้น ด้วยองค์ประกอบของตัวรถเองที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้า มีเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ดีไซน์สวยงามโดดเด่น ทั้งยังมีขนาดที่กระทัดรัด และด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
“เราเชื่อว่า Volvo EX30 จะเป็นรถที่ตรงต่อความต้องการของผู้คนมากมายที่มีปณิธานเดียวกันกับวอลโว่ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในเมือง และกำลังมองหารถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใข้ชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นตัวรถยังมีเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ตอบโจทย์การใช้รถใช้ถนนที่มีทั้งคนเดินเท้า จักรยานและมอเตอร์ไซต์อยู่ทุกหนแห่งอย่างกรุงเทพมหานคร”
ความต้องการรถไฟฟ้าในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็ว และเราตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่จะได้นำ Volvo EX30 เข้ามาเพื่อเปิดตลาดกลุ่มรถ SUV ขนาดเล็กในประเทศร่วมกับผู้จำหน่ายของเรา
ความปลอดภัยที่สมบูรณ์ในแบบวอลโว่
เนื่องจากเป็นรถที่ทำงานโดยระบบไฟฟ้า เราจึงให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่อย่างมาก โดยตัวโครงแชสซี และกล่องเก็บแบตเตอรี่ของ Volvo EX30 ทำจากเหล็กที่มีความทนทานสูงเพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับแบตเตอรี่หากเกิดการชน
นอกจากนี้ เสา A และ C รวมถึงหลังคาของตัวรถได้รับการออกแบบทางด้านโครงสร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง และมอบความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ถุงลมนิรภัยกลางห้องโดยสารซึ่งเก็บอยู่ใต้เบาะคนขับถูกออกแบบมาเพื่อลดความรุนแรงของการบาดเจ็บที่ศรีษะและบริเวณหน้าอกหากเกิดการชนจากด้านข้าง
Volvo EX30 ยังมาพร้อมฟีเจอร์เพื่อความปลอดภัยอีกมากมาย อาทิ ระบบแจ้งเตือนการเปิดประตูหรือ dooring alert ผ่านเรดาร์ที่ตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่มาจากด้านหลัง เช่น รถจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ โดยรถจะส่งเสียงเตือนหากคนในรถจะเปิดประตูเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
นอกจากนี้ยังมีระบบเซ็นเซอร์เพื่อช่วยตรวจสอบความพร้อมในการควบคุมรถของผู้ขับ ที่ไม่เพียงตรวจการจับพวงมาลัย แต่ยังสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของศรีษะ ดวงตา และกะพริบตาของผู้ขับได้อย่างรวดเร็วถึง 13 ครั้งต่อวินาทีเพื่อตรวจสอบว่าผู้ขับมีอาการง่วง หรือมีสมาธิในการขับรถหรือไม่ และส่งสัญญาเตือนหากตรวจพบว่าผู้ขับมีแนวโน้มที่ไม่พร้อมในการควบคุมรถ
Volvo EX30 ยังเป็นรถรุ่นแรกที่มีระบบช่วยจอด Park Pilot Assist เจนเนอเรชั่นใหม่ล่าสุดที่ช่วยให้ผู้ขับเข้าจอดได้อย่างไร้กังวลไม่ว่าจะเป็นการจอดแบบขนาน จอดในลานจอดแบบโค้ง ถอยเข้าซอง หรือจอดในลานจอดแบบสลับฟันปลา
เอกลักษณ์การออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียน
Volvo EX30 ไม่เพียงนำเสนอสุดยอดนวัตกรรมเพื่อความปลอดภัย แต่ยังถูกออกแบบโดยคำนึงถึงความคล่องตัว และตอบโจทย์การใช้งาน มอบความสะดวกสบายด้วยเทคโนโลยี และการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียนที่ภายในตัวรถมีความทันสมัย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปพร้อมกัน โดยวอลโว่ได้นำวัสดุรีไซเคิลและวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่มาชุบชีวิตให้มีประโยชน์อีกครั้ง อาทิ การใช้วัสดุเส้นใยจากยีนส์ และต้นเฟล็กซ์มาใช้ทำเป็นเบาะที่ให้สีสันและสัมผัสที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์
ลักษณะการจัดวางที่เน้นการควบคุมจากศูนย์กลางผ่านจอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้ว บนแผงแดชบอร์ดรวบรวมฟังก์ชันการควบคุมรถ รวมถึงข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้ขับขี่เพื่อความสะดวกในการใช้งานไว้ในที่เดียว และด้วยการออกแบบที่เน้นการจัดสรรพื้นที่ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างสูงสุด แผงแดชบอร์ดทั้งแผงของ Volvo EX30 จึงถูกติดตั้งชุดลำโพงแบบซาว์ดบาร์จาก Harman Kardon ไว้ภายในเพื่อเป็นการจัดสรรพื้นที่เก็บของในห้องโดยสารอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งผลที่ได้รับคือคุณภาพเสียงรอบทิศทางที่ไม่ต่างไปจากการฟังเพลงหรือพอดแคสต์สุดโปรดจากชุดเครื่องเสียงในบ้าน
Volvo EX30 มาพร้อมระบบสาระบันเทิง (infotainment) และการเชื่อมต่อ 5G เพื่อการใช้งานแอปที่ลื่นไหลไม่ว่าจะเป็น Google Assistant, Google Maps navigation และ Google Play และครั้งแรกกับฟังก์ชันการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย
หลังคาแมททาลิคสีดำ Onyx Black ให้ความโดดเด่นตัดกับเฉดสีรถที่มีให้เลือกถึง 5 สีได้แก่ สีเหลือง Moss Yellow สีฟ้า Cloud Blue สีเทา Vapour Grey สีขาว Crystal White และสีดำ Onyx Black ห้องโดยสารภายในมาพร้อมตัวเลือกการตกแต่ง 3 สไตล์ที่ได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติของสแกนดิเนเวียให้สัมผัสและอารมณ์ภายในห้องโดยสารที่แตกต่างกัน ได้แก่ สไตล์ Mist, Indigo และ Breeze
ในด้านของพลังและระยะทาง
Volvo EX30 ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้รถที่แตกต่างกันด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 แบบ เริ่มต้นที่ รุ่นมอเตอร์เดี่ยว Extended Range ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC แบบ extended-range ให้ระยะทางสูงสุดถึง 480 กิโลเมตร1 ต่อการชาร์จเต็ม รองรับกำลังการชาร์จสูงสุด 153kW
ปิดท้ายในรุ่นมอเตอร์คู่ Performance ที่มาพร้อมแบตเตอรี่ NMC ให้พลังการขับเคลื่อนสูงสุด 428 แรงม้า (315 kW) จึงให้อัตราเร่งจาก 0 – 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ภายใน 3.6 วินาที ทำให้ Volvo EX30 มีอัตราการเร่งเร็วที่สุดในรถวอลโว่ที่เคยมีมา นอกจากนี้ยังรองรับกำลังการชาร์จได้ที่ 153kW จึงใช้เวลาการชาร์จจาก 10 – 80% ในเวลาราว 25 นาที2
และเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่ Volvo EX30 จึงถูกออกแบบให้มีศูนย์ถ่วงต่ำ และมีการกระจายน้ำหนักของตัวรถที่เหมาะสมเพื่อการทรงตัว มอบความปราดเปรียวในการขับขี่ทั้งในเมืองและทุกเส้นทาง
“ทุกความโดดเด่นที่ทำให้รถ SUV ของวอลโว่เป็นที่ชื่นชอบของคนมากมายในตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงภายนอกที่โดดเด่น พื้นที่ห้องโดยสารกว้าง พลังการขับขี่ที่เหนือชั้น ระบบความปลอดภัยขั้นสูง เข้าถึงฟังก์ชันการใช้งานได้สะดวก เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ไม่มีสะดุด ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน ทุกสิ่งที่กล่าวมานี้รวมอยู่แล้วใน Volvo EX30” นายคริส กล่าวทิ้งท้าย
ราคาและการจำหน่ายในประเทศไทย
- Volvo EX30 Core – Single Motor Extended Range ราคาเริ่มต้นที่ 1,590,000 บาท
- Volvo EX30 Ultra – Single Motor Extended Range ราคาเริ่มต้นที่ 1,790,000 บาท
- Volvo EX30 Ultra – Twin Motor Performance ราคาเริ่มต้นที่ 1,890,000 บาท
ผู้สนใจสามารถจองเพื่อเป็นเจ้าของ Volvo EX30 ได้แล้ววันนี้ โดยคาดว่าจะพร้อมส่งมอบช่วงไตรมาสแรกของปี 2024 เป็นต้นไป
พิเศษ พบกับ Volvo EX30 ได้อีกครั้งที่โซน EDEN ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 11 – 17 กันยายน นี้
ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย ได้ที่เว็บไซต์ www.volvocars.com/th เฟซบุ๊ก http://www.facebook.com/volvocarsth หรือเยี่ยมชม Volvo Studio Bangkok ได้ที่ชั้น 3 ห้างสรรพสินค้า ICONSIAM ติดต่อ Customer Relations Center ได้ที่ 02-161-4144
หมายเหตุ
1อ้างอิงผลการทดสอบภายใต้สภาวะควบคุมของ WLTP ผลที่ได้รับจริงอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิแวดล้อม ลักษณะการขับขี่ จำนวนผู้โดยสารในรถ เป็นต้น
2ระยะเวลาการชาร์จอาจแตกต่างไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย อาทิ อุณหภูมิภายนอก อุณหภูมิของแบตเตอรี่ อุปกรณ์ชาร์จ สถานะของแบตเตอรี่และรถ