Onlinenewstime.com : วีซ่า ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ประกาศความร่วมมือกับเจ็ดสตาร์ทอัพชั้นนำภายใต้โครงการ Visa Accelerator Program ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเจ็ดสตาร์ทอัพที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการมาจากประเทศ ไทย อินเดีย จีน สิงคโปร์ และเยอรมนี
โดยผู้ที่ได้รับการคัดเลือกจะเข้าร่วมช่วยกันพัฒนาโซลูชันในด้าน Web 3.0, การเคลื่อนย้ายเงินทั่วโลก, บริการทางการเงินแบบฝังตัว, เครื่องมือดิจิทัลสำหรับร้านค้าและธุรกิจรายย่อย, และ open banking การเชื่อมโยงข้อมูลทางการเงินถึงกันแบบไร้รอยต่อ
สตาร์ทอัพที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการในปี 2023 นี้ ได้แก่ Playbux (ประเทศไทย), Dowsure (ประเทศจีน), Doxa Holdings (ประเทศสิงคโปร์), Kadmos (ประเทศเยอรมนี), Pi-xcels (ประเทศสิงคโปร์), Transpure (ประเทศอินเดีย), และ Twid (ประเทศอินเดีย)
ตลอดระยะเวลาหกเดือนพวกเขาจะได้รับโอกาสพิเศษ ในการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบการชำระเงินของวีซ่า ทีมพัฒนาธุรกิจ และลูกค้าของวีซ่า ที่จะร่วมพัฒนา และทดสอบโซลูชัน และในขณะเดียวกันยังได้รับโอกาสในการประเมิณความเป็นไปได้เชิงธุรกิจจากเครือข่ายที่กว้างขวางของวีซ่า ไม่ว่าจะเป็น สถาบันการเงิน ร้านค้า และพันธมิตรทางดิจิทัลต่าง ๆ เป็นต้น
“โครงการ Visa Accelerator Program จะช่วยให้สตาร์ทอัพที่ได้รับการคัดเลือกสามารถเข้าสู่เส้นทางการค้าได้อย่างรวดเร็ว” คูนาล ชัตเทอร์จี หัวหน้าฝ่ายนวัตกรรม ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก วีซ่า กล่าว
“ความร่วมมือของเรากับกลุ่มสตาร์ทอัพที่ผ่านมาก่อให้เกิดความร่วมมือทางการค้ามากมาย ทั้งยังได้รังสรรค์ทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ๆ ตลอดจนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ร่วมกับ วีซ่า และลูกค้าของเราทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก
ความสำเร็จในอุตสาหกรรมการชำระเงินนั้นต้องอาศัยความร่วมมืออันแข็งแกร่ง และวีซ่ามุ่งมั่นที่จะทำงานและลงทุนในสตาร์ทอัพที่มีวิสัยทัศน์สอดคล้องกับเราเพื่อสร้างประสบการณ์การค้าดิจิทัลรูปแบบใหม่ให้กับโลกใบนี้”
สตาร์ทอัพเจ็ดบริษัทที่ได้เข้าโครงการในปี 2023 ได้รับการคัดเลือกมาจากกลุ่มผู้สมัครกว่า 450 บริษัท ได้แก่
- Playbux (ประเทศไทย) จะนำเสนอแพลตฟอร์ม Web 3.0 เทคโนโลยีบล็อกเชน, NFTs, และชุมชนเสมือนจริง (virtual communities)
- Dowsure (ประเทศจีน) จะยกระดับประสบการณ์ทางการเงินด้านดิจิทัลไฟแนนซ์สำหรับร้านค้าระหว่างประเทศบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซระดับโลก
- Doxa Holdings (ประเทศสิงคโปร์) จะนำเสนอแพลตฟอร์มการค้าที่ทำงานร่วมกัน ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงขั้นตอนการจัดซื้อ และการชำระเงิน สำหรับบริษัทในต่างอุตสาหกรรม
- Kadmos (ประเทศเยอรมนี) นำเสนอแพลตฟอร์มการจ่ายเงินเดือนแบบ end-to-end สำหรับแรงงานข้ามชาติ
- Pi-xcels (ประเทศสิงคโปร์) ช่วยทำหน้าที่แปลงใบเสร็จมาเป็นรูปแบบดิจิทัลทันทีเพื่อให้ผู้ค้าปลีกออฟไลน์ได้รับข้อมูลนักช้อปแบบเรียลไทม์
- Transpure (ประเทศอินเดีย) ช่วยจัดหาเทคโนโลยีเพื่อความซับซ้อน สร้างโซลูชันที่ไร้รอยต่อและคุ้มค่าสำหรับการชำระเงินและการส่งเงินข้ามพรมแดน
- Twid (ประเทศอินเดีย) คือเครือข่ายการชำระเงินสำหรับคะแนนรีวอร์ด ผ่านระบบรวบรวมข้อมูลคะแนนสะสมของผู้ออกบัตรหรือตราสารต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน เพื่อเปิดเปิดช่องทางชำระเงินระหว่างร้านค้า
ศรัณย์ วิชยาภัย ผู้ร่วมก่อตั้ง Playbux กล่าวว่า “การร่วมงานกับ วีซ่า ประเทศไทยก่อนหน้านี้ช่วยให้เราเติบโตอย่างมหาศาล และเราตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้เพื่อต่อยอดการเป็นพันธมิตรในโครงการ Visa Accelerator Program เช่นเดียวกันกับวีซ่า
เราเล็งเห็นความเป็นไปได้ในการลดความซับซ้อนของการชำระเงินด้วยบล็อกเชนและบน Web 3.0 และเราต้องการที่จะทำงานร่วมกันเพื่อเร่งให้เกิดแพลตฟอร์มการชำระเงินที่สามารถเชื่อมโยงสกุลเงินทั่วไปกับสกุลเงินคริปโตได้”
ผู้บริโภคเองยังคงมองหาความสะดวกและความปลอดภัยจากอีคอมเมิร์ซ ดิจิทัลแบงก์กิ้ง และการชำระเงินเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพวกเขาต่อไป และวีซ่าเองได้ทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อสร้างประสบการณ์การค้าดิจิทัลรูปแบบใหม่ๆ ร่วมกัน
สำหรับโครงการ Visa Accelerator Program ประจำปี 2023 นี้ วีซ่า ได้ทำงานร่วมกับ Plug and Play ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดย Plug and Play จะนำความรู้ความเชี่ยวชาญในฐานะผู้ประสบความสำเร็จในการเป็นนักลงทุนและประสบกาณ์การทำงานกับองค์กรใหญ่ ๆ มาคัดสรร เชิญชวน และผลักดันให้เหล่าสตาร์ทอัพแก้ไขปัญหาและความท้าทายในอุตสาหกรรมพร้อมรังสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ ไปด้วยกัน