fbpx
News update

UN เดินหน้ากลไกคาร์บอนเครดิต ภายใต้มาตรา 6.4 เสริมความโปร่งใสตลาดคาร์บอนโลก รับเป้าหมาย Net Zero

Onlinenewstime.com : เดินหน้าสู่ยุคใหม่ของการซื้อขายคาร์บอนระหว่างประเทศ UN อนุมัติระเบียบวิธีแรกภายใต้มาตรา 6.4 ของข้อตกลงปารีส วางกลไกมาตรฐานเดียวทั่วโลกเพื่อให้ประเทศและภาคธุรกิจชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ พร้อมเตรียมเสนอแนวทางต่อที่ประชุม COP30

หน่วยงานกำกับดูแลของสหประชาชาติ ซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงานตลาดคาร์บอนระหว่างประเทศภายใต้ข้อตกลงปารีส ได้บรรลุข้อตกลงเรื่องกฎเกณฑ์ใหม่ เพื่อบริหารความเสี่ยงที่ “การกำจัดก๊าซเรือนกระจก” ซึ่งได้รับเครดิตคาร์บอนภายใต้กลไกดังกล่าว อาจถูกปล่อยกลับหรือย้อนกลับในอนาคต

คณะกรรมการกำกับดูแลกลไกคาร์บอนระหว่างประเทศของสหประชาชาติ (UN Supervisory Body for Article 6.4) ซึ่งมีหน้าที่ดูแลการดำเนินกลไกคาร์บอนเครดิตภายใต้ข้อตกลงปารีส ได้บรรลุข้อตกลงสำคัญในการประชุมที่กรุงบอนน์ ประเทศเยอรมนี สัปดาห์ที่ผ่านมา (10 ตุลาคม 2568 ) โดยเห็นชอบ กฎเกณฑ์บริหารความเสี่ยงการย้อนกลับของการกำจัดก๊าซเรือนกระจก (Reversal Standard) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับระบบเครดิตคาร์บอนโลก

มาร์ติน เฮสเชียน ประธานคณะกรรมการกำกับดูแล กล่าวว่า

“การไปถึงจุดนี้ไม่ง่าย เพราะทุกฝ่ายมีมุมมองชัดเจนและต้องตัดสินใจในประเด็นยากหลายเรื่อง แต่เราสามารถวางรากฐานที่แข็งแรงบนหลักวิทยาศาสตร์ เพื่อให้การบริหารความเสี่ยงเป็นไปได้จริงและยั่งยืน ผมมั่นใจว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องจะร่วมกันยกระดับมาตรฐานนี้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติ”

สาระสำคัญของกฎใหม่ระบุว่า โครงการดูดซับหรือกักเก็บคาร์บอนจะต้องถูกติดตามในระยะยาว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการ “ปล่อยกลับ” ของก๊าซเรือนกระจกในภายหลัง โดยคณะกรรมการจะเป็นผู้อนุมัติระยะเวลาติดตาม รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้นักลงทุนบริหารความเสี่ยงผ่านระบบติดตามและการประกันภัย ทั้งนี้ กฎยังเปิดทางให้โครงการสามารถชำระความเสี่ยงล่วงหน้า หรือโอนความเสี่ยงไปยังผู้รับประกันบุคคลที่สามได้

ข้อตกลงใหม่นี้กำหนดให้ทุกโครงการต้องอ้างอิงข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่เชื่อถือได้ และอยู่ภายใต้การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าการสร้างเครดิตคาร์บอนนั้น “มีความสมบูรณ์สูง” และส่งผลต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนจริง

นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลยังเห็นชอบให้ใช้ “เครื่องมือวิเคราะห์แนวปฏิบัติทั่วไป” (Common Practice Analysis Tool) เพื่อใช้ตรวจสอบว่าโครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประเภทใดมีการดำเนินอยู่แล้วอย่างแพร่หลายในพื้นที่นั้นหรือไม่

เครื่องมือนี้ช่วยป้องกันไม่ให้โครงการที่ “ทำอยู่แล้วเป็นปกติ” ได้รับเครดิตคาร์บอนซ้ำซ้อน และรับรองว่าการให้เครดิตจะจำกัดเฉพาะโครงการที่สร้างผลลัพธ์ใหม่ “เกินกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่เดิม” หรือที่เรียกว่า Additionality ซึ่งเป็นหลักสำคัญในการประเมินความน่าเชื่อถือของโครงการคาร์บอน

รวมถึงมีมติรับรอง ผู้ตรวจสอบอิสระ (DOE) เพิ่มอีก 4 ราย เพื่อยกระดับการตรวจสอบความโปร่งใสของระบบ

ขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการกำกับดูแลจะประชุมต่อในรูปแบบออนไลน์ วันที่ 29–30 ตุลาคม 2568 เพื่อพิจารณาแนวทางปฏิบัติฉบับแรกภายใต้กลไกการให้เครดิตของข้อตกลงปารีสมาใช้ ก่อนนำเสนอรายงานต่อที่ประชุม COP30 ซึ่งประเทศภาคีภายใต้กรอบ CMA จะพิจารณาให้ข้อเสนอแนะและกำหนดทิศทางการดำเนินกลไกคาร์บอนเครดิตในระดับโลกต่อไป