fbpx
News update

“ทรัมป์” ส่งจดหมายถึงไทย ยืนยันเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 36% มีผล 1 สิงหาคมนี้

Onlinenewstime.com : หลังจากเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ประกาศมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าขั้นต่ำในอัตรา 10% สำหรับสินค้าจากทุกประเทศที่มีดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงประเทศไทย โดยสินค้าไทยจะถูกเก็บภาษีในอัตราสูงถึง 36% โดยมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 เป็นต้นไป

ในวันเดียวกัน รัฐบาลไทยได้ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนต่อท่าทีของสหรัฐฯ โดยระบุว่า รัฐบาลไทยตระหนักและเข้าใจถึงความจำเป็นของสหรัฐอเมริกาในการปรับสมดุลทางการค้ากับประเทศคู่ค้าผ่านนโยบาย “Reciprocal Trade and Tariffs” หรือการจัดเก็บภาษีตอบโต้ที่เป็นธรรม

ทั้งนี้ ประเทศไทยได้จัดตั้ง “คณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา” ขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม 2568 เพื่อจัดเตรียมข้อเสนอในการลดช่องว่างดุลการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงจูงใจให้รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณาเปิดการเจรจากับไทยอย่างเป็นทางการ

ต่อมา นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้แถลงแนวทางรับมือกับมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ไว้ 5 แนวทางสำคัญ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อบรรเทาผลกระทบและฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ


1. ต้องเพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของสหรัฐอเมริกา และได้เปรียบดุลการค้า
2. ผ่อนคลาย มาตรการจัดเก็บภาษี เพื่อส่งเสริมการนำเข้า
3. ลดขั้นตอนที่ทำให้เกิดความไม่สะดวกทางการค้าระหว่างประเทศ
4. เพิ่มมาตรการคุมเข้มสินค้าที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน
5. หาโอกาสลงทุนในสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะเรื่องก๊าซธรรมชาติ

จากนั้น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขยายระยะเวลาผ่อนผันการประกาศใช้อัตราภาษีศุลกากรตอบโต้ใหม่อีก 90 วัน เป็นวันที่ 9 กรกฎาคม 2568  สำหรับประเทศไทย มีกำหนดเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 นำโดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

วันที่ 5 กรกฎาคม 2568 นายพิชัยได้เปิดเผยภายหลังเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจามาตรกรทางภาษีของสหรัฐอเมริกาว่า ในการเดินทางเยือนครั้งนี้ “ทีมไทยแลนด์” ได้ประชุมกับหลายฝ่าย และได้พบทั้งภาครัฐของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นระดับนโยบาย และภาคเอกชนของสหรัฐอเมริกา ที่มีการลงทุนในประเทศไทย

รวมถึงได้พบกับภาคการเกษตรของสหรัฐอเมริกา ทูตการค้าของสหรัฐอเมริกา และได้พบรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา โดยได้รับฟังทั้งข้อเสนอ และข้อกังวลจากฝ่ายสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีส่วนที่เกี่ยวข้องกับทั้งอัตราภาษีและการกีดกันทางการค้าอย่างรอบด้าน โดยคณะทำงานจะนำความเห็นที่ได้ทั้งหมด กลับไปประกอบการทำงาน และเจรจาในระดับเทคนิคและส่งกลับไปให้ฝ่ายสหรัฐอเมริกา

จากนั้นวันที่ 6 กรกฎาคม 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มีการหารือกับคณะทำงานนโยบายการค้าสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือการปรับปรุงข้อเสนอตามที่ได้ประชุมกับผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา

พร้อมยืนยันว่า กระแสข่าวว่าไทยจะถูกจัดเก็บอัตราภาษีที่ 18 – 36% ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงปัจจุบันทีมประเทศไทยยังไม่ได้ข้อสรุปว่า อัตราภาษีที่สหรัฐอเมริกา จะเรียกเก็บจากประเทศไทยนั้นจะอยู่ที่เท่าไหร่ โดยการตัดสินใจอัตราภาษีทั้งหมดนี้ ฝ่ายสหรัฐอเมริกาจะแจ้งผลภาษีอย่างเป็นทางการและแจ้งพร้อมกัน ขอให้รอผลอย่างเป็นทางการเท่านั้น 

ไทยยื่นข้อเสนอทางการค้ารอบใหม่แก่สหรัฐฯ เปิดตลาดให้สินค้าเกษตรและพลังงานสหรัฐฯ หวังลดอัตราภาษีนำเข้า (7 กรกฎาคม 2568) นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ชี้แจงความคืบหน้าในการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยไทยได้ยื่นข้อเสนอฉบับปรับปรุงใหม่ต่อสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม 2568

ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศ และลดการเกินดุลการค้าของไทยต่อสหรัฐอเมริกา ลงให้ได้ถึงร้อยละ 70 ภายในระยะเวลา 5 ปี และคาดว่าจะสามารถสร้างความสมดุลทางการค้าได้ภายใน 7-8 ปี ซึ่งเร็วกว่าแผนเดิมที่เคยเสนอไว้ว่าจะลดดุลการค้าภายใน 10 ปี

โดยข้อเสนอฉบับใหม่ของไทยมีรายละเอียดที่ชัดเจนขึ้น ทั้งในด้านการเปิดตลาดสำหรับสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมจากสหรัฐอเมริกา และการเพิ่มการจัดซื้อพลังงานและเครื่องบินจากบริษัทของสหรัฐอเมริกา

โดยในส่วนของการเปิดตลาดนั้น ไทยได้เน้นสินค้าในกลุ่มที่ยังขาดแคลนหรือผลิตไม่ได้ในประเทศ เพื่อไม่ให้กระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย ขณะเดียวกัน ยังได้เสนอการลดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษีและปรับปรุงกระบวนการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการค้าและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
     
“ทรัมป์” ส่งจดหมายถึงไทย ยืนยันเก็บภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 36% มีผล 1 สิงหาคมนี้ (7 กรกฎาคม 2568) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ได้ส่งจดหมาย ถึงนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย กรุงเทพมหานคร

เรียน นายกรัฐมนตรี เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ข้าพเจ้าได้ส่งจดหมายฉบับนี้ถึงท่าน ซึ่งสะท้อนถึงความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นในความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของเรา และข้อเท็จจริงที่ว่าสหรัฐอเมริกาได้ตกลงที่จะเดินหน้าทำงานร่วมกับประเทศไทยต่อไป แม้จะประสบปัญหาขาดดุลการค้ากับประเทศของท่านเป็นอย่างมากก็ตาม

อย่างไรก็ตาม เราได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อกับท่าน แต่ต้องอยู่ภายใต้กรอบการค้าที่สมดุลและเป็นธรรมมากขึ้น เราจึงขอเชิญประเทศไทยเข้ามามีส่วนร่วมในเศรษฐกิจอันน่าอัศจรรย์ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดอันดับหนึ่งของโลกอย่างแท้จริง ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เราได้หารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศไทย และได้ข้อสรุปว่าเราจำเป็นต้องลดเลิกการขาดดุลการค้าเรื้อรัง ซึ่งเกิดจากนโยบายกำแพงภาษีและมิใช่ภาษี

ตลอดจนมาตรการกีดกันทางการค้าอื่น ๆ ของไทย ความสัมพันธ์ของเราในอดีตนั้น น่าเสียดายที่ไม่เป็นไปอย่างต่างตอบแทนตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป สหรัฐอเมริกาจะเรียกเก็บ ภาษีนำเข้าในอัตรา 36% สำหรับ สินค้าทุกชนิดจากประเทศไทย ที่ส่งเข้ามายังสหรัฐอเมริกา แยกจากภาษีตามหมวดหมู่สินค้าโดยสิ้นเชิง

สินค้าที่ผ่านการถ่ายโอนจากประเทศที่สามเพื่อเลี่ยงภาษีจะถูกเรียกเก็บในอัตราที่สูงกว่าตามที่ควรโปรดเข้าใจว่า อัตรา 36% นี้ยัง ต่ำกว่าระดับที่จำเป็น เพื่อแก้ไขความไม่สมดุลทางการค้าที่เรามีกับประเทศของท่าน

อย่างที่ท่านทราบ หากประเทศไทย หรือบริษัทใดในประเทศของท่าน เลือกที่จะมาตั้งฐานการผลิตหรือประกอบสินค้าในสหรัฐอเมริกาจะไม่ต้องเสียภาษีใด ๆ และเรายังจะช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการอนุมัติด้านต่าง ๆ อย่างเต็มที่ ภายในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์

หากประเทศไทยเลือกที่จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าในอัตราใด เราจะเพิ่มอัตรานั้นเข้าไปใน 36% ที่เรากำหนดไว้แล้ว โปรดเข้าใจว่า การจัดเก็บภาษีนี้เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขผลกระทบจากนโยบายภาษีและมิใช่ภาษีของไทยที่มีมานานหลายปี และนำไปสู่การขาดดุลการค้าในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้ต่อเศรษฐกิจ และแม้แต่ต่อความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา

เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับท่านในฐานะพันธมิตรทางการค้าต่อไปอีกหลายปี หากประเทศไทยประสงค์จะเปิดตลาดการค้าที่เคยปิดไว้ต่อสหรัฐอเมริกา และยกเลิกนโยบายกำแพงภาษี รวมถึงมาตรการกีดกันทางการค้าอื่น ๆ เราอาจพิจารณาปรับเงื่อนไขในจดหมายฉบับนี้

ทั้งนี้ อัตราภาษีดังกล่าว สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเรา สหรัฐอเมริกาจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง ขอบคุณสำหรับความใส่ใจในเรื่องนี้ ด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่ง ลงนามโดย โดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา

ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์