Onlinenewstime.com : การพบปะอย่างไม่เป็นทางการของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ระหว่างการประชุม APEC ที่เกาหลีใต้ กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมหาอำนาจ หลังคณะทำงานเศรษฐกิจจีน–สหรัฐฯ บรรลุฉันทามติร่วม ลดภาษีการค้า–คลายข้อจำกัดการส่งออก–เดินหน้าความร่วมมือเศรษฐกิจโลก
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม 2025 อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางถึงเมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ครั้งที่ 32 ที่เมืองกยองจู การพบกันของสองผู้นำเกิดขึ้นอย่างไม่เป็นทางการ แต่สะท้อนสัญญาณบวกในความสัมพันธ์จีน–สหรัฐฯ ที่เริ่มกลับมาคลี่คลายหลังหลายปีแห่งความตึงเครียดทางการค้า
แม้จะไม่ได้มีการนัดหมายล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ แต่การพูดคุยระหว่างทรัมป์และสี จิ้นผิง เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นมิตรและสร้างสรรค์ ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันในช่วงนอกเวทีการประชุมหลัก โดยรัฐบาลจีนได้แสดงท่าทีพร้อมร่วมมือกับสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้อย่างชัดเจน
เปิดดีลใหม่ “ลดภาษี–ซื้อสินค้าเกษตร–คุมฟีนทานิล”
สาระสำคัญของการหารือมุ่งไปที่การเจรจาทางเศรษฐกิจและการค้า โดยมีการบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นหลายประการ อาทิ สหรัฐฯ จะลดภาษีสินค้าจีนจาก 57% เหลือ 47% จีนยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกแร่ธาตุหายาก (Rare Earths) เป็นเวลา 1 ปี และกลับมาซื้อสินค้าการเกษตรจากสหรัฐฯ อีกครั้ง พร้อมให้คำมั่นจะควบคุมการผลิตและส่งออกสารฟีนทานิลที่ถูกใช้เป็นยาเสพติดร้ายแรงในสหรัฐฯ
การพบกันครั้งนี้เป็นไปอย่างราบรื่น ทรัมป์ถึงกับให้คะแนนเต็ม “12 จาก 10” และกล่าวว่าการเจรจาครั้งนี้ “น่าทึ่งและสร้างความคืบหน้าเกือบทุกประเด็น” ขณะที่สี จิ้นผิง ย้ำความสำคัญของการสร้างความร่วมมือระยะยาวและหลีกเลี่ยงวงจรของการตอบโต้ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลเสียต่อทั้งสองประเทศ
ครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังยุคสงครามการค้า
การพบกันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี นับจากการเจรจาที่การประชุม G20 ที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2019 ซึ่งทั้งสองฝ่ายเคยพยายามลดความตึงเครียดจากสงครามการค้าและภาษีนำเข้า การกลับมาพบกันอีกครั้งจึงถูกมองว่าเป็น “สัญญาณฟื้นตัว” ของความสัมพันธ์ระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก
จุดเริ่มต้นใหม่ของความร่วมมือ
หลังการประชุม APEC คณะทำงานด้านเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ จะเดินหน้าหารือเชิงลึกเพื่อนำฉันทามติที่ได้ไปสู่การปฏิบัติจริง สะท้อนถึงความพยายามของทั้งสองชาติในการฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโลก และสร้างรากฐานความร่วมมือใหม่บนหลักการผลประโยชน์ร่วมกัน
ภาพ : Xinhua