fbpx
News update

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เผยสถานการณ์น้ำทั่วไทย 9 พ.ย. 68: เหนือ–ใต้ยังเจอฝนหนัก อ่างเก็บน้ำเต็ม 89% น้ำท่วมแล้ว 15 จังหวัด

Onlinenewstime.com : สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ รายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำเช้าวันที่ 9 พ.ย. 68 เวลา 07.00 น. พบภาคเหนือและภาคใต้ยังมีฝนตกหนักจากหย่อมความกดอากาศต่ำและลมตะวันตกเฉียงใต้ ขณะที่อ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวมสูงถึง 89% ส่งผลให้หลายพื้นที่รับน้ำไม่ทัน เกิดน้ำท่วมแล้ว 15 จังหวัด 69 อำเภอ

พร้อมเตือนประชาชนลำพูน–ลี้ เฝ้าระวังน้ำหลากและดินถล่ม ด้านกรมชลประทานย้ำคงเกณฑ์ระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อบรรเทาผลกระทบพื้นที่ลุ่มน้ำตอนล่างและประเมินสถานการณ์รายวันอย่างใกล้ชิด

สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ วันที่ 9 พ.ย. 68 เวลา 7.00 น.

1. สภาพอากาศวันนี้ : หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมด้านตะวันตกของภาคเหนือและประเทศเมียนมา ทำให้ภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา และตาก

สำหรับภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ คาดการณ์ : วันที่ 10–12 พ.ย. 68.ประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง เนื่องจากหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนไปปกคลุมประเทศเมียนมา ในขณะที่ภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ เนื่องจากยังคงมีลมตะวันตกพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย

สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนกลาง

2. สถานการณ์น้ำอ่างเก็บน้ำในภาพรวม : ปริมาณน้ำรวม 89% ของความจุเก็บกัก (71,444 ล้าน ลบ.ม.) ปริมาณน้ำใช้การ 81% (47,323 ล้าน ลบ.ม.) การประเมินสถานการณ์แหล่งน้ำขนาดใหญ่ แหล่งน้ำขนาดกลางที่มีปริมาณน้ำเก็บกักน้อยกว่า 30% จำนวน 20 แห่ง ดังนี้ ภาคกลาง 3 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันออก 6 แห่ง ภาคตะวันตก 6 แห่ง และภาคใต้ 2 แห่ง

3. คุณภาพน้ำ ณ จุดเฝ้าระวัง แม่น้ำสายหลัก น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค แม่น้ำเจ้าพระยา ณ สถานีสูบน้ำสำแล จ.ปทุมธานี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน น้ำเพื่อการเกษตร แม่น้ำท่าจีน แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำบางปะกง อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน

4. พื้นที่ประสบอุทกภัย : วันที่ 8 พ.ย. 68 เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 15 จังหวัด 69 อำเภอ ได้แก่ จ.สุโขทัย (อ.ศรีสัชนาลัย เมืองฯ ทุ่งเสลี่ยม ศรีสำโรง สวรรคโลก กงไกรลาศ และบ้านด่านลานหอย) จ.พิจิตร (อ.สามง่าม โพทะเล โพธิ์ประทับช้าง และบึงนาราง) จ.พิษณุโลก (อ.บางระกำ) จ.กำแพงเพชร (อ.เมืองฯ คลองขลุง ขาณุวรลักษบุรี ปางศิลา พรานกระต่าย และคลองลาน)

จ.นครสวรรค์ (อ.เมืองฯ ชุมแสง พยุหะคีรี และโกรกพระ) จ.อุทัยธานี (อ.เมืองฯ สว่างอารมณ์ บ้านไร่ ลานสัก ห้วยคต ทัพทัน และหนองฉาง) จ.สิงห์บุรี (อ.เมืองฯ อินทร์บุรี และพรหมบุรี) จ.ชัยนาท (อ.วัดสิงห์ มโนรมย์ เมืองฯ และสรรพยา) จ.อ่างทอง (อ.เมืองฯ ป่าโมก ไชโย และวิเศษชัยชาญ)

จ.สุพรรณบุรี (อ.เมืองฯ บางปลาม้า สองพี่น้อง และอู่ทอง) จ.พระนครศรีอยุธยา (อ.เสนา ผักไห่ บางบาล บางไทร บางปะอิน พระนครศรีอยุธยา บางปะหัน และบางซ้าย) จ.ปทุมธานี (อ.เมืองฯ และสามโคก)

จ.นนทบุรี (อ.เมืองฯ บางกรวย และปากเกร็ด) จ.นครปฐม (อ.บางเลน สามพราน นครชัยศรี กำแพงแสน ดอนตูม และเมืองฯ) จ.อุบลราชธานี (อ.เมืองฯ วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร สว่างวีระวงศ์ ตระการพืชผล และดอนมดแดง)

5. การให้ความช่วยเหลือ/แจ้งเตือน : กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ส่งข้อความแจ้งเตือนผ่าน Cell Broadcast พื้นที่ จ.ลำพูน พบว่ามีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.ลี้ และยังคงตกต่อเนื่อง ขอให้เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง ดินโคลนถล่ม ในพื้นที่เสี่ยงริมห้วย/คลอง/ลำน้ำ ที่ลุ่มต่ำและที่ลาดเชิงเขา โดยเฉพาะ ต.ป่าไผ่ ต.แม่ตืน และพื้นที่ใกล้เคียง

โดยขอให้ผู้อยู่ในพื้นที่เสี่ยงข้างต้น ยกของขึ้นที่สูง ดูแลกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ติดตามข่าวสารจากทางราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด

กรมชลประทาน ลงพื้นที่ชี้แจงแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาว่า เขื่อนเจ้าพระยา เป็นอาคารชลประทานที่สำคัญในการบริหารน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง โดยเฉพาะฤดูน้ำหลาก จะทำหน้าที่ในการรับปริมาณน้ำเหนือที่ไหลหลากลงมาด้วยการใช้พื้นที่ว่างบริเวณตอนบนหน่วงน้ำเอาไว้ และตัดยอดน้ำจากการรับน้ำเข้าระบบชลประทานฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตกอย่างเต็มศักยภาพให้มากที่สุด

ก่อนที่ปริมาณน้ำส่วนที่เหลือจะทยอยระบายผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ตอนล่าง

สำหรับข้อเรียกร้องที่ขอให้กรมชลประทานไม่ระบายน้ำเพิ่มเข้าไปในพื้นที่ ต.หัวเวียง และ ต.บ้านกระทุ่ม อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นั้น กรมชลประทาน จะไม่รับน้ำเพิ่มเข้ามาในพื้นที่ทางแม่น้ำน้อยมากไปกว่าปัจจุบัน

โดยจะคงการระบายไว้ในเกณฑ์ 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อลดผลกระทบให้กับพื้นที่ดังกล่าว และจะมีการติดตามประเมินสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมปรับแผนการระบายน้ำรายวันให้เหมาะสมกับปริมาณน้ำฝน-น้ำท่า เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุดต่อไป