fbpx
News update

“พายุหนองฟ้า” ฝนตกหนักต่อเนื่อง กรมชลฯเร่งปรับแผนระบายน้ำ หล่มสัก–เขาค้อ มวลน้ำทะลัก เมืองเพชรบูรณ์เร่งตั้งรับ

Onlinenewstime.com : อิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน “หนองฟ้า” ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทยเผชิญฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณน้ำจากฝนหลากไหลลงสู่แม่น้ำสายหลักและอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว

ขณะที่กรมชลประทานยืนยันปรับแผนการระบายน้ำรายวันเพื่อสอดคล้องกับสถานการณ์จริง พร้อมบูรณาการทุกหน่วยงานเข้าช่วยเหลือประชาชน

กรมชลประทานรายงานว่า ขณะนี้ (1 ก.ย. 2568) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และกลางทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวม 53,401 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) หรือร้อยละ 70 ของความจุทั้งหมด โดยยังรองรับน้ำได้อีก 23,105 ล้าน ลบ.ม. สำหรับลุ่มน้ำเจ้าพระยามี 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ กักเก็บน้ำรวมแล้ว 18,651 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 75 ของความจุ

โดยเฉพาะเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ มีปริมาณน้ำสูงถึงร้อยละ 86 ของความจุ กรมชลประทานจึงต้องปรับลดการระบายน้ำจากวันละ 50 ล้าน ลบ.ม. เหลือเพียง 33 ล้าน ลบ.ม. เพื่อลดผลกระทบพื้นที่ท้ายน้ำ ซึ่งยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง

โดยวันนี้ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC) อาคาร 99 ปี หม่อมหลวงชูชาติ กำภู รองอธิบดีกรมชลประทาน นายเดช เล็กวิชัย เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1–17 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามและวิเคราะห์แนวโน้มสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ แม่น้ำสายหลักต่างๆ เป็นข้อมูลสำคัญในการบริหารจัดการน้ำช่วงฤดูฝนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ด้านสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำป่าสัก ที่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุหนองฟ้า ทำให้ อ.หล่มสัก เผชิญน้ำท่วมรุนแรง ในเขตชุมชนเทศบาลเมืองหล่มสัก กรมชลประทาน ได้ลดการระบายน้ำจากทางตอนบน พร้อมปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาสมทบ

รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องจักรเครื่องมือเข้าสูบระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่เมื่อระบายน้ำกลับเข้าสู่ตลิ่ง ปัจจุบันระดับน้ำเริ่มทรงตัวและมีแนวโน้มลดลง คาดว่าหากไม่มีปริมาณฝนตกเพิ่มในพื้นที่ สถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววัน

นายกิตติ พั้วช่วย นายกเทศมนตรีเมืองหล่มสัก เปิดเผยว่า ระดับน้ำแม่น้ำป่าสักหลายจุดสูงเกินจุดวัด บางแห่งเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยว จนทำให้ตลาดหล่มสักและพื้นที่ชุมชนโดยรอบถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง การจราจรในหลายเส้นทางถูกตัดขาด เทศบาลเมืองหล่มสักต้องประกาศธงแดงแจ้งเตือนประชาชนให้อพยพสิ่งของขึ้นที่สูง และเตรียมเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

เช้าวันที่ 1 ก.ย. 2568 เวลา 09.00 น. นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมด้วยนายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมการป้องกันผลกระทบจากแม่น้ำป่าสักที่จะเอ่อล้นเข้าท่วมในเขตเทศบาล หลังฝนตกหนักตลอดคืนทำให้หลายตำบลในพื้นที่ เช่น สะเดียง ระวิง น้ำร้อน นายม และวังชมพู มีน้ำท่วมขังในบ้านเรือน ถนนสายหลัก และพื้นที่การเกษตร

โดยเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ได้วางแผนการป้องกันการวางกระสอบทรายในพื้นที่จุดเสี่ยงและเตรียมเครื่องสูบน้ำในพื้นที่จุดเสี่ยง 11 จุด พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำและซักซ้อมแผนฉุกเฉินเพื่อเตรียมรับมวลน้ำจาก อ.หล่มสัก และ อ.เขาค้อ ที่กำลังไหลลงมาสมทบ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้านเฝ้าระวังพื้นที่ริมแม่น้ำป่าสักและเชิงเขา ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง

กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ระหว่างวันที่ 1–7 ก.ย. 2568 ประเทศไทยยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ซึ่งอาจทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะในลุ่มน้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก สำหรับพื้นที่เสี่ยงน้ำหลากที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ พิจิตร สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์

กรมชลประทานยืนยันว่า จะปรับแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์จริง พร้อมบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากอุทกภัยให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

ภาพ : ที่ว่าการอำเภอหล่มสัก