นายภูกิจ ดิศธรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เรียลสมาร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยแผนธุรกิจปี 2569 ว่า บริษัทมีเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมด้านการนำปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) และ ข้อมูล (Data) มาใช้ในการปรับเปลี่ยน (Transform) กระบวนการทำงานต่างๆ ขององค์กร
ไปจนถึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการตัดสินใจการดำเนินธุรกิจในทุกด้าน ในรูปแบบของพันธมิตรทางธุรกิจ โดยการสร้างเครือข่ายการทำธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยี AI Data-driven Technology
“ปี 2569 เป็นยุคของ AI Transform คือ การที่ AI เข้ามามีบทบาทในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างและกระบวนการทำงานของภาคธุรกิจ ให้มีประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และ เพิ่มรายได้
ซึ่งเป็นธุรกิจที่ เรียลสมาร์ท มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งเราให้บริการกับพันธมิตรทางธุรกิจและกลุ่มลูกค้าของเรา ให้ก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่เปลี่ยนผ่านการขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI” นายภูกิจ กล่าว
ตามแผนธุรกิจในปี 2569 เรียลสมาร์ท มีแผนในการขับเคลื่อนองค์กรโดยใช้เทคโนโลยี AI ที่พัฒนาโดยทีมเทคโนโลยีของบริษัท ในการสนับสนุนการทำธุรกิจของลูกค้าในรูปแบบของพันธมิตรธุรกิจ
ในการนำ AI เข้าไปใช้ปรับกระบวนการทำงาน ผ่านการใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ในด้านของการวางกลยุทธ์ธุรกิจ โดยการมอร์นิเตอร์ และ เก็บข้อมูล พฤติกรรมของลูกค้า ผ่าน Social Listening และ Social Monitoring เพื่อนำมาใช้ในการวางแผนการพัฒนาสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กับความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ในขณะเดียวกันมีการพัฒนาและออกแบบแพลตฟอร์ม AI Data-driven มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อตอบโจทย์การทำงานให้กับลูกค้า เช่น การนำระบบมาใช้ในการลดกระบวนการทำงานที่เป็นการทำงานซ้ำในเรื่องของการจัดระเบียบและการจัดเก็บข้อมูล
เพื่อลดระยะเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การนำ AI Data-driven มาใช้ในการออกแบบการทำงาน workflow การวิเคราะห์งบการเงิน การวางกลยุทธ์ด้านการตลาด ไปจนถึงการวิเคราะห์ความเสี่ยงทางธุรกิจ และวางแผนธุรกิจ
“เรียลสมาร์ท มีการพัฒนา AI ที่ตอบโจทย์กับความต้องการขององค์กร ที่มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองกับความต้องการขององค์กรในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนา AI สำหรับองค์กรที่มีความต้องการที่ชัดเจนว่าต้องการนำ AI ไปใช้ในธุรกิจด้านใด
เรียลสมาร์ท สามารถที่จะพัฒนาซอฟท์แวร์ และ แพลตฟอร์ม ที่ตอบโจทย์การทำงานขององค์กรได้ เช่น บริษัททำธุรกิจด้านการบริหารจัดการหนี้ เรียลสมาร์ท สามารถที่จะพัฒนา AI ที่รวบรวมข้อมูลจากฐานข้อมูลขององค์กร มาสร้าง แพลตฟอร์ม ในการบริหารจัดการหนี้ขององค์กรได้
หรือ บริษัทต้องการสร้างแพลตฟอร์ม ในการวิเคราะห์ข้อมูลของลูกค้าและคู่แข่ง ในธุรกิจที่มีความเฉพาะเจาะจง เรียล สมาร์ท สามารถที่จะพัฒนา AI และ แพลตฟอร์ม ที่รวบรวมข้อมูล และ วิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะตามความต้องการขององค์กรได้
ถ้าองค์กรไม่ทราบว่า AI จะนำมาใช้กับองค์กรได้อย่างไร เรียลสมาร์ท สามารถเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนา AI ที่เหมาะสมกับองค์กรธุรกิจได้แบบเฉพาะเจาะจง ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรทั้งในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และ เพิ่มรายได้ให้กับองค์กรได้
ถ้าองค์กรต้องการซอฟท์แวร์ หรือ แพลตฟอร์ม สำเร็จรูป ที่ตอบโจทย์กับการทำงานแบบครบวงจร ในด้านของการเก็บข้อมูลเฉพาะทั้งเชิงลึกและกว้างของแต่ละองค์กร เพื่อให้การตัดสินใจเชิงธุรกิจมีความแม่นยำ โดยเฉพาะในการจัดการประเด็นปัญหารอบด้าน ทำให้การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ทำได้รวดเร็วและแม่นยำ ก็สามารถที่จะใช้ ซอฟท์แวร์ และ แพลตฟอร์ม สำเร็จรูปที่ เรียลสมาร์ท มีอยู่อย่าง RealVision ไปใช้ได้เลย
เพราะ RealVision เป็น AI Platform ที่พัฒนาขึ้นมาให้เหมาะสมกับแต่ละองค์กร ซึ่งอยู่ภายใต้การให้บริการ 4 กลุ่ม คือ Software Suite, Services, Solutions และ Academy เป็นการพัฒนาจากประสบการณ์การทำงานตลอด 10 ปี ของ เรียลสมาร์ท ที่เราทำงานกับองค์กรธุรกิจมากกว่า 100 บริษัท ใน 30 กลุ่มอุตสาหกรรม” นายภูกิจ กล่าว
4 เทรนด์ AI ปี 2569
แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าว นายภูกิจ กล่าวว่า เพราะเราเห็นแนวโน้มของธุรกิจในปี 2569 ว่า เป็นปีที่ AI เข้ามาพลิกโฉมองค์กร (AI Transform) ผ่าน 4 เทรนด์ใหญ่ คือ
เทรนด์แรก ในปี 2569 เป็นปีที่ AI ถูกใช้ในองค์กรแบบ “จริงจัง” ไม่ใช่แค่ทดลอง ภาคธุรกิจไทยจะก้าวเข้าสู่ช่วงของ “Enterprise-wide AI Transformation” จากการทำงานร่วมกับลูกค้าของ เรียลสมาร์ท
ในช่วงที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นได้ชัดเจน คือ ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการให้บริษัทพัฒนา AI Contact Center, AI Fraud Detection, AI CRM, AI Document Verify, AI Cyber Protection, AI Crisis Detection ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ เรียล สมาร์ท จะพัฒนาและทำงานไปร่วมกับลูกค้าของเรา
เทรนด์ที่สอง คือ AI + Data Platform จะกลายเป็นหัวใจสำคัญขององค์กร องค์กรจะไม่เก็บข้อมูลไว้เฉยๆ แบบเดิมอีกต่อไป แต่จะเก็บข้อมูลให้ AI ใช้งานได้ทันที ในแบบของ Data Lake, Data Pipeline, Realtime Dashboard
ซึ่งจะเป็นมาตรฐานใหม่ในการทำงาน ซึ่ง เรียลสมาร์ท มีเครื่องมือในการทำงานเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าเช่น platform RealVision ซึ่งจะเป็นตัวเร่งให้เกิด Data-Driven Culture
เทรนด์ที่ 3 คือ AI ถูกใช้ในงาน CEO-Level Decision Making ในปี 2569 CEO จำนวนมากจะใช้ AI เพื่อมาใช้ในการ วิเคราะห์คู่แข่ง. วิเคราะห์สถานการณ์ตลาด, ประเมิน Sentiment ต่อแบรนด์, ตรวจสอบวิกฤตออนไลน์, คาดการณ์ Demandและ ตัดสินใจด้านกลยุทธ์การลงทุน เพราะ AI วิเคราะห์เร็วกว่า และแม่นยำกว่าเดิม 10 เท่า
เทรนด์ที่ 4 การเกิดขึ้นของ “AI Workforce” ปี 2569 องค์กรจะเริ่มมี “พนักงาน AI” มากกว่า 20–50 ตัวในการทำงานจริง เช่น AI พนักงานตอบลูกค้า, AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล, AI ทำสรุปรายงาน, AI ตรวจสอบเอกสาร, AI ช่วยงานขาย, AI ตรวจจับวิกฤต, AI ทำงานบัญชีเบื้องต้น, AI จัดคิวงาน เป็น workforce ใหม่ที่ทำงาน 24 ชั่วโมงโดยไม่เหนื่อย
“จากเทรนด์การใช้งานของ AI ในปี 2569 และ แผนการขับเคลื่อนธุรกิจของเรียลสมาร์ท ที่มุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในรูปแบบของพันธมิตรธุรกิจ ที่เราจะเติบโตไปด้วยกัน
ทำให้บริษัทมั่นใจว่าปี 2569 เรียลสมาร์ท จะสามารถเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2568 และสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาด MAI ได้ในปี 2570” นายภูกิจ กล่าว
ผลการดำเนินงานของบริษัท เรียลสมาร์ท จำกัด (มหาชน) 6 เดือนแรกปี 2568 ที่รายงานตลาด Live Exchange บริษัทมีรายได้รวม 112.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.41% เมื่อเทียบกับรายได้รวม 91.54 ล้านบาท ใน 6 เดือนแรกของปี 2567 และมั่นใจว่ารายได้ในปี 2568 จะเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
บริษัท เรียลสมาร์ท จำกัด ก่อตั้งปี 2558 โดย นายภูกิจ ดิศธรานนท์ ด้วยทุนจดทะเบียน 12.987 ล้านบาท ประกอบธุรกิจด้าน Data Tech และ เป็นผู้นำในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล AI และ แพลตฟอร์ม และต่อมาในปี 2564 ผศ.ดร. รุ่งโรจน์ โชคงามวงศ์ และ นายอุกฤษฏ์ ตั้งสืบกุล เข้ามาร่วมงานและเป็นผู้ถือหุ้น
ได้มีการพัฒนาและขยายงานด้าน Data Technology อย่างต่อเนื่อง และ แปลงสภาพเป็นบริษัท เรียลสมาร์ท จำกัด (มหาชน) ในปี 2568 และ เข้าจดทะเบียนในตลาด Live Exchange เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 ด้วยทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว 32.46 ล้านบาท ด้วยผลงานการพัฒนา 14 นวัตกรรมที่จดลิขสิทธิ์ 5 ผลิตภัณฑ์ และ 5 การบริการ
5 ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่
- Real Vision เป็น AI Data Platform สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ ที่ออกแบบมาเพื่อประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
- Real Listening เป็นซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียแบบเรียลไทม์
- RealSmart + Application เป็นแอปพลิเคชัน สำหรับการเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค ที่ออกแบบมาให้ผู้บริหารและนักการตลาดเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคอย่างสะดวกรวดเร็ว เพื่อนำไปต่อยอดในการพัฒนาสินค้าและบริการของลูกค้า
- Real Protection เป็นระบบปกป้องแบรนด์จากภัยคุกคามในโลกออนไลน์
- Real Engagement เป็นระบบบริหารจัดการการสื่อสารและดูแลลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย
5 บริการในปัจจุบัน
- Real Monitoring เป็นบริการเฝ้าระวังและมอนิเตอร์ข้อมูลบนโซเชียลมีเดีย
- Real Data Analytic เป็นบริการวิเคราะห์ข้อมูลออนไลน์เชิงลึกเพื่อนำไปสู่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ โดยใช้เครื่องมือ AI และ Machine Learning มาประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก
- Real Digital Agency บริการด้านการตลาดดิจิทัล ครบวงจรภายใต้การขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Marketing)
- Real Contact Center ศูนย์บริการ Contact Center ครบวงจร พร้อมระบบ AI ช่วยสนับสนุนการทำงาน
- Real Crisis Management บริการ ให้คำปรึกษา และ การบริหารจัดการภาวะวิกฤตในโลกออนไลน์
Related