Onlinenewstime.com : โอสถสภา ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เล็งเห็นความสำคัญที่ผู้ผลิตจะเป็นฟันเฟืองสำคัญ ในการช่วยลดปัญหาขยะ เปิดศูนย์รีไซเคิลในจังหวัดสระบุรี พร้อมพัฒนามาตรการดูแลบรรจุภัณฑ์ ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด
นางวรรณิภา ภักดีบุตร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “โอสถสภามุ่งมั่น ในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำมาโดยตลอด เพราะเราเชื่อว่าธุรกิจที่ดี ต้องไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชุมชนและสังคม เรามีนโยบายและมาตรการดูแลกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานและการใช้พลาสติกในกระบวนการผลิต
นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์แม้ว่าจะส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือผู้บริโภคแล้ว โดยได้จัดตั้งศูนย์รีไซเคิลบรรจุภัณฑ์ขึ้น เพื่อเป็นอีกหนึ่งพลังในการช่วยลดปริมาณขยะและนำขยะมารีไซเคิลเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค้าและยาวนาน นำไปสู่การสร้างความยั่งยืนให้แก่ประเทศ”
สำหรับการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำนั้น โอสถสภาให้ความสำคัญตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบของบรรจุภัณฑ์ ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของโอสถสภา โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบรรจุในขวดแก้วกว่าร้อยละ 70 ซึ่งสามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ ส่วนบรรจุภัณฑ์พลาสติกนั้น บริษัทฯ เริ่มใช้พลาสติกที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ อาทิ บรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์ออร์แกนิค บาย เบบี้มายด์ และยังส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์แบบรีฟีล ซึ่งใช้พลาสติกในการผลิตน้อยกว่าแบบขวด
ยิ่งไปกว่านั้น โอสถสภายังได้จัดตั้งศูนย์รีไซเคิลขึ้นในจังหวัดสระบุรี ที่สามารถคัดแยกบรรจุภัณฑ์ในรูปแบบขวดแก้วและกระป๋องได้ถึงวันละ 1,000 ตัน โดยเมื่อขยะบรรจุภัณฑ์เข้าสู่ศูนย์รีไซเคิล จะผ่านกระบวนการแยกขยะอย่างเป็นระบบ เพื่อนำขยะที่คัดแยกแล้วแต่ละประเภทไปรีไซเคิล เพื่อนำไปใช้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด เช่น ขวดแก้วและเศษแก้วจะถูกส่งต่อไปเป็นวัตถุดิบในการผลิตขวดแก้ว โดยโรงงานผลิตขวดแก้วของโอสถสภานั้นใช้เศษแก้วเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตได้สูงสุด ถึงร้อยละ 90 ช่วยให้สามารถลดการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตได้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ การใช้เศษแก้วเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จะช่วยลดปริมาณการใช้พลังงานในเตาหลอมได้ถึง ร้อยละ 2.5 ในส่วนของฝาอลูมิเนียมที่คัดแยกออกมานั้น จะนำมารวมกับขยะกระป๋องและส่งให้โรงงานที่เชี่ยวชาญด้านอลูมิเนียมนำไปรีไซเคิลต่อไป และที่ยังอยู่ระหว่างการทำวิจัย คือการนำของเหลวที่คงค้างอยู่ในขยะบรรจุภัณฑ์ เช่น เครื่องดื่ม ซอสปรุงอาหาร ไปใช้ประโยชน์ต่อ เช่น นำไปผลิตปุ๋ยและสารบำรุงพืช
ศูนย์รีไซเคิลแห่งนี้ได้เปิดใช้งานในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา และถือเป็นความสำเร็จอีกขั้น ในการดูแลบรรจุภัณฑ์ของบริษัทฯ ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด นับตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ สำหรับผู้ที่สนใจและหน่วยงานในจังหวัดสระบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงที่มีความประสงค์ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลสิ่งแวดล้อม สามารถรวบรวมบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วที่ใช้แล้ว มามอบให้ศูนย์รีไซเคิลของโอสถสภา ติดต่อที่สายด่วนผู้บริโภคของโอสถสภา โทร. 02-351-1111
