fbpx
News update

แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยแนวโน้มตลาดแรงงานปี 2564

Onlinenewstime.com : แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย เผยทิศทางและแนวทางการปรับทัพของตลาดงาน และการปรับตัวของแรงงานในปี 2564 ชี้ผลพวงวิกฤตไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลตลาดงาน-แรงงานเปลี่ยนวิถี รูปแบบการทำงาน และมองภาพปี 2564 เป็นปีแห่งฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญของภาครัฐภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม ที่ต้องผนึกกำลังร่วมกัน  พร้อมจัดอันดับงานมาแรง 10 อันดับที่ตลาดงานต้องการ และ 10 อันดับงานที่แรงงานพร้อมลุย เพื่อเป็นการลดช่องว่างและเติมเต็มตลาดงานในปัจจุบัน

นายไซมอน แมททิวส์, ผู้จัดการระดับภูมิภาค ประเทศไทย, แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ผู้นำที่ปรึกษาด้านแรงงานเชิงนวัตกรรมกว่า 80 ประเทศทั่วโลก และในประเทศไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ทั่วโลกได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจในทุกอุตสาหกรรม เพราะมีความเชื่อมโยงกัน  รวมถึงตลาดแรงงาน ที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ทั้งวิถีการดำเนินชีวิตและการปฏิบัติงาน 

นายไซมอน แมททิวส์

รวมถึงประเทศไทย ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ที่ต้องปรับตัวรับกับสถานการณ์ ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 วิกฤตเศรษฐกิจโลก รวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศไทย นับเป็นผลพวงจากปัจจัยข้างต้น 

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสนับสนุนของภาครัฐ ในเชิงนโยบายและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ที่นับว่าได้รับผลกระทบอย่างหนัก  รวมถึงด้านการลงทุน และการใช้จ่ายในภาคครัวเรือน ที่เข้ามาช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจรายย่อย เพื่อขับเคลื่อนกลไกเศรษฐกิจในประเทศ ทางด้านการลงทุนจากต่างประเทศ แม้ลดลงแต่ยังได้รับการลงทุนอย่างต่อเนื่อง 

“นอกจากนี้ ยังเป็นช่วงการทรานส์ฟอร์มครั้งสำคัญ ของภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะรูปแบบการทำงานภายใต้วิถีชีวิตแบบ New Normal

ดังนั้น ส่งผลให้ปี 2563 ที่ผ่านมา เป็นปีแห่งการ Recovery สู่การ Renew ในปี 2564 ที่ต้องจับตาการฟื้นตัวสู่การฟื้นฟูครั้งสำคัญ ที่ทุกภาคส่วนต้องบูรณาการร่วมกัน  อย่างไรก็ตามแม้สัญญาณการฟื้นตัวจะเป็นไปอย่างช้าๆ  แต่การตระหนักรู้ ตื่นตัว เกิดขึ้น ตั้งแต่ระดับจุลภาคจนถึงมหภาค ทั้งภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ ทั้งในระดับประเทศจนถึงนานาประเทศในระดับโลก 

ผมคิดว่า หากพวกเราปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง เราจะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้อย่างมีสติและสามารถแก้ไขปัญหาได้จนบรรลุความสำเร็จได้ต่อไป” นายไซมอน แมททิวส์ กล่าว

ทางด้านนางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด แมนพาวเวอร์กรุ๊ป  เปิดเผยต่อว่า  แนวโน้มในปี 2564 ตลาดงานในส่วนขององค์กรธุรกิจ มีการกลยุทธ์และการออกแบบการทำงานในรูปแบบใหม่ เพื่อการลดต้นทุน จะถูกนำมาใช้ในองค์กรต่างๆ มากขึ้น  เพื่อให้มีความกระชับและมีต้นทุนที่ลดลง 

นางสาวสุธิดา กาญจนกันติกุล

ทั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสตั้งแต่ต้นปี 2563  อีกทั้งการปรับโครงสร้างองค์กร และออกแบบกระบวนการทำงานใหม่ ส่งผลให้รูปแบบการจ้างงานมีความยืดหยุ่นจากการจ้างงานแบบประจำ มาเป็นรูปแบบการจ้างงานระยะสั้นประเภทต่างๆ ทั้งการจ้างงานชั่วคราว การจ้างงานแบบสัญญาจ้าง และการจ้างงานในรูปแบบเอาท์ซอร์ส (Outsource) จะเป็นที่นิยมแพร่หลาย ตอบโจทย์การขาดแคลนกำลังคนได้ตามความต้องการ

นอกจากนี้ เรากำลังเห็นแนวโน้มการใช้เทคโนโลยี ในการทำให้ขั้นตอนบางอย่างเป็นอัตโนมัติและดิจิตัล โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้เป็นบางส่วน จนถึงทั้งกระบวนการทำงาน อาทิ พนักงานขายหน้าร้าน พนักงานบริการลูกค้า งานธุรการ พนักงานขนส่ง พนักงานฝ่ายการผลิต

ทั้งนี้ ในการการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และเชื่อมโยงผ่านแพลตฟอร์ม ส่งผลให้เกิดการเพิ่มทักษะการเรียนรู้ใหม่ๆ ที่แรงงานต้องเตรียมพร้อมให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัล

เราพบการมีพนักงานที่หลากหลาย และมีกลุ่มคนทำงานหลายช่วงอายุในองค์กร (Multi-Generational Pool of Workers) ซึ่งปัจจุบัน แต่ละเจนเนอเรชั่น มีสัดส่วนที่เป็นกำลังแรงงานที่มีอายุระหว่าง 15-60 ปีในส่วนของ Gen X กับ Y มีมากสุด และในกลุ่ม Gen Z  จะมีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ตามการเริ่มต้นเข้ามาในตลาด ซึ่งคนแต่ละรุ่น มีวิธีคิดและการทำงานที่แตกต่างกันไปตามประสบการณ์ และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพนักงาน ที่จะต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกันและประสบความสำเร็จด้วยกันต่อไป

อีกหนึ่งแนวโน้มที่จะเห็นในโลกของการทำงาน  กลุ่มแรงงานจะเปลี่ยนแปลงไปสู่การสร้างทางเลือกเพื่อสร้างรายได้ เพิ่มขึ้น อาทิ กลุ่มคนทำงานประจำ ยังคงรักษาความมั่นคงในอาชีพ และจะมีการสร้างรายได้เสริมจากการรับงานอิสระประเภทต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสายงานหรือเป็นเรื่องที่ถนัด เช่น ทำขนม ทำอาหารขายออนไลน์ หรือการขายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น 

ทางด้านกลุ่มแรงงานที่ทำงานอิสระ จะรับทำงานที่หลากหลายมากขึ้น บางคนผันไปเป็นรายได้หลัก และการสร้างความมั่นคงจากงานระยะสั้นหลายๆงาน โดยสามารถบริหารจัดการและเลือกทำงานพร้อมๆ กันได้หลายอย่าง  นอกจากนี้ กระบวนการเรียน รู้และการเสริมทักษะต่างๆ เพื่อพัฒนาความรู้ความสามารถในระดับบุคคล จะเป็นตัวเชื่อมโยงแรงงานและอาชีพต่างๆ ให้สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบทั้งงานปัจจุบันและงานในอนาคตได้         

ทิศทางตลาดแรงงานปี 2564

สำหรับภาพรวมทิศทางตลาดแรงงานปี 2564 มีความสอดคล้องกัน 8 ใน 10 สายงาน แต่ลดลงมาจากปีที่แล้วร้อยละ 10  เนื่องจากตลาดแรงงาน ยังอยู่ในภาวะชะลอตัวทำให้บางสายงานโตสวนกระแส บางสายงานความต้องการลดลงถึงคงที่ จากผลกระทบจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและโควิด-19 จึงยังไม่มีการขยายโครงสร้าง 

โดยจากผลสำรวจจากกลุ่มลูกค้าของแมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย 10 อันดับสายงานที่ตลาดงานต้องการ (ภาพในตาราง) ดังนี้  อันดับ 1 สายงานขายและการตลาด 23.10%  อันดับ 2 สายงานบัญชีและการเงิน 9.58% อันดับ 3 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์ 9.50% อันดับ 4 สายงานวิศวกร 8.52% อันดับ 5 สายงานไอที 7.78% อันดับ 6  งานระยะสั้นต่างๆ 6.96% อันดับ 7 สายงานธุรการ 6.80% อันดับ 8 สายงานบริการลูกค้า 5.32% อันดับ 9 สายงานการผลิต 5.24% และอันดับ 10  สายงานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ 3.28%

ส่วน 10 อันดับสายงานที่ตลาดแรงงานต้องการ ดังนี้ อันดับ 1สายงานขายและการตลาด  29.70% อันดับ 2  สายงานวิศวกร 15.23% อันดับ 3 สายงานบริการลูกค้า  13.43% อันดับ 4 สายงานธุรการ 7.40% อันดับ 5  สายงานทรัพยากรบุคคล 7.37% อันดับ 6 สายงานไอที  5.9% อันดับ 7 สายงานบัญชีและการเงิน  5.66% อันดับ 8 สายงานขนส่งและงานโลจิสติกส์  5.51% อันดับ 9 งานระดับผู้บริหาร  3.51% และอันดับ 10  สายงานการผลิต  2.28%

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าตลาดงานและแรงงาน ยังมีความสอดคล้องในสัดส่วนความต้องการของตลาดกับแรงงาน (ภาพในตาราง) อีกทั้ง ผลสำรวจ ยังชี้ให้เห็นว่าสายงานขนส่งและโลจิสติกส์ มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาอยู่ 4.83%  ตามทิศทางธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ, ค้าขายออนไลน์ และธุรกิจเดลิเวอรี่

ทางด้านงานขายและการตลาดขึ้นอันดับ 1 มา 5 ปีต่อเนื่องกันซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการเติบโตทางธุรกิจ ให้ความสำคัญกับบุคลากรที่เป็นตัวกลางในการนำเสนอสินค้าและบริการ โดยเฉพาะสินค้าความงาม และสินค้าที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ

ส่วนการตลาดเข้ามาวางกลยุทธ์ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ สู่การนำเสนอการสื่อสารเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์หรือบริการโปรโมชั่น และกิจกรรมทางการตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้ ในกลุ่มงานระยะสั้นประเภทต่างๆ, งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ มีความต้องการแรงงานเป็นจำนวนมาก และเป็นตลาดงานส่วนที่มีความสำคัญในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปีนี้  แต่งานในกลุ่มงานธุรการ งานบริการลูกค้า และงานการผลิต ก็ยังคงมีความต้องการสูง เนื่องจากผู้ประกอบการในประเทศส่วนใหญ่ ยังคงเป็นธุรกิจและอุตสาหกรรมแบบดั้งเดิมแ ละกำลังเข้าสู่ช่วงการเปลี่ยนแปลง

แม้งานเหมือนเดิม แต่ก็มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ทั้งบางส่วนจนถึงหลายส่วน จึงทำให้แรงงานต้องพัฒนาทักษะที่มารองรับกับการทำงานกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ในกระบวนการทำงานและการผลิต เป็นต้น

อาชีพมาแรง

พร้อมกันนี้ ยังเผยถึงอาชีพที่มาแรงในปี 2564 มี 10 อาชีพตามผลสำรวจ ประกอบด้วย อันดับหนึ่งงานขายและการตลาด อันดับสองงานบัญชีและการเงิน  อันดับที่สามงานขนส่งและโลจิสติกส์ อันดับสี่งานวิศวกร  อันดับที่ห้า งานไอที อันดับที่หกงานระยะสั้นต่างๆ อันดับเจ็ดงานธุรการ  อันดับแปด งานบริการลูกค้า อันดับเก้างานการผลิตและ อันดับสิบ งานบริการทางการแพทย์และสุขภาพ

นอกจากนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยถึงกลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สูงสุด 5 อันดับ ประกอบด้วย 1.ธุรกิจท่องเที่ยว รายได้ลดลง 73% 2.ธุรกิจบันเทิง รายได้ลดลด 59% 3.ธุรกิจรับจ้าง บริการ รายได้ลดลง 44% 4.ธุรกิจการผลิต รายได้ลดลง 42% 5.ธุรกิจอาหาร รายได้ลดลง 41%

จากข้อมูลดังกล่าว สอดคล้องกับแนวโน้มที่ภาคแรงงาน ต้องเตรียมพร้อมในการปรับเปลี่ยนรับการเปลี่ยนแปลงที่ได้รับผลกระทบ  อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าวิกฤตดังกล่าวจะปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำงานและธุรกิจต่างๆ จะปรับตัวเข้ากับสถานการณ์และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“ทั้งนี้ สิ่งสำคัญของการเปลี่ยนแปลงในตลาดงานและแรงงานในปีนี้ ต่อไปจนถึงอนาคต การทำงานของแรงงาน จะต้องตอบโจทย์ตลาดงาน มีทักษะที่มีความหลากหลาย พร้อมกับการพัฒนาตนเองด้วยการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง อันจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น บนพื้นฐานของความสมดุลในชีวิตการทำงานและชีวิตครอบครัว

โดยแรงงานสามารถออกแบบความมั่นคงของชีวิตได้ ตามสถานการณ์และบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น หากทุกคนมีการเตรียมตัว และตั้งรับที่ดีโดยเฉพาะภาคแรงงาน แมนพาวเวอร์กรุ๊ปเชื่อมั่นว่า ประเทศไทย จะเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมไทยต่อไป แม้ในยามวิกฤตที่เกิดขึ้น หากภาครัฐ ภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมและแรงงาน เรียนรู้การเปลี่ยนแปลง ปรับตัว ยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ เราจะสามารถค้นพบ “ทางเลือกสู่ทางรอดแรงงานไทยปี 64” เท่าทันยุคเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็วได้ต่อไป”  นางสาวสุธิดากล่าวทิ้งท้าย

error: Content is protected !!