Onlinenewstime.com : ระยะทางห่างไกลจากกรุงเทพฯ 786 กิโลเมตร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำโดย ดร.ธเนศ วีระศิริ นายก วสท., รศ.ดร.วัชรินทร์ กาสลัก, นายชัชวาลย์ คุณค้ำชู อุปนายก วสท. และนายจีระศักดิ์ ปราชญ์โกสินทร์ กรรมการและเลขาธิการ พร้อมด้วยผู้แทนจากหลายองค์กร ร่วมพิธีเปิดและส่งมอบ อาคารวิศวกรรมสถานอุปถัมภ์ 5 ให้เป็นห้องสมุดและศูนย์เรียนรู้ แก่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านใหม่พัฒนาสันติ ตำบลบ้านแม่นาจร อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ โดยมี ร.ต.อ.บัณฑิต เครือริยะ ครูใหญ่ เป็นผู้รับมอบ ท่ามกลางรอยยิ้มของนักเรียนและครู ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านใหม่พัฒนาสันติ
ดร.ธเนศ วีระศิริ นายก วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) กล่าวว่า เพราะทุกความฝันและการใฝ่รู้ใฝ่เรียนของเด็กๆ ทุกคน ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต ในวาระโอกาส วสท.ครบรอบ 77 ปี ซึ่งเป็นองค์กรเสาหลักด้านวิศวกรรมของประเทศ ที่มุ่งมั่นส่งเสริมพัฒนาวิชาชีพวิศวกร ให้เป็นพลังร่วมพัฒนาประเทศ ให้ก้าวหน้าในระดับสากล ช่วยเหลือประชาชนและกิจกรรมเพื่อสังคม ทั้งในยามปกติสุขและภาวะวิกฤติ เราได้ริเริ่มโครงการสร้าง อาคารวิศวกรรมสถานอุปถัมภ์ แห่งที่ 5
ซึ่งมาจากการเห็นความสำคัญ ของการส่งเสริมโอกาส และศักยภาพของเยาวชนในชนบทห่างไกล ไม่แน่ว่าสักวันหนึ่ง ฝันของเด็กคนหนึ่งจากโรงเรียนเล็กๆ ที่ห่างไกล อาจจะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป็นประโยชน์ต่อประเทศและสังคมโลก ในวันข้างหน้าก็เป็นได้
วัตถุประสงค์โครงการเพื่อใช้เป็นอาคารห้องสมุด และศูนย์เรียนรู้อเนกประสงค์ จัดกิจกรรมเสริมทักษะปฏิบัติ การสร้างแรงบันดาลใจและโอกาสการเรียนรู้ของเยาวชน ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ให้เยาวชนสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ และที่สำคัญ ให้กำลังใจเด็กๆได้พัฒนาตนเอง และเติบโตเป็นกำลังสำคัญของครอบครัว การพัฒนาท้องถิ่นและประเทศชาติต่อไป
ความสำเร็จของโครงการเพื่อเยาวชน นำมาสู่พิธีเปิดอาคารวิศวกรรมสถานอุปถัมภ์ 5 จ.เชียงใหม่ เป็นจริงได้ในวันนี้ สะท้อนถึงพลังสร้างสรรค์สังคมไทยให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น ด้วยน้ำใจความเอื้ออาทร
เป็นความร่วมมือร่วมใจระหว่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ผนึกกำลังจิตอาสาจากภาคเอกชนและภาคการศึกษา ในการเปิดหน้าต่างแห่งโอกาสให้กับเยาวชนไทยในชนบท โดย วสท. สาขาภาคเหนือ 1 จังหวัดเชียงใหม่ ออกแบบและควบคุมงานก่อสร้างอาคาร และได้รับการสนับสนุนโครงสร้างเหล็กสำเร็จรูปทั้งหลัง จากบริษัท เหล็กสยามยามาโตะ จำกัด พร้อมทั้งค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจาก มูลนิธิวิศวโยธาลาดกระบัง บริษัท วรนิทัศน์ จำกัด และมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ ได้ช่วยจัดหาหนังสือให้กับห้องสมุดในโครงการนี้