fbpx
News update

ภัยจากการเที่ยวทะเล แนะวิธีเอาตัวรอดจาก “Rip Current”

onlinenewstime.com : ใกล้ถึงเทศกาลวันหยุด ที่เป็นเวลาแห่งการท่องเที่ยวร่วมกันในครอบครัว ชายทะเลน่าจะเป็นหนึ่งจุดหมายปลายทางยอดนิยมของหลายๆคน “เวบไซต์ข่าวออนไลน์ นิวส์ไทม์” จึงหยิบเรื่อง “Rip current” มาฝาก เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับฤดูการท่องเที่ยวที่จะมาถึงเร็วๆนี้

ปรากฏการณ์กระแสน้ำย้อนกลับ หรือ Rip current เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ ที่เกิดขึ้นได้โดยทั่วไปตามชายฝั่งทะเล

กระแสน้ำชนิดนี้  เกิดจากการสะท้อนของคลื่น ที่ซัดสู่ฝั่งอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากการรวมตัวกันของพลังงาน และน้ำที่สะท้อน จากชายหาดกลับสู่ทะเล เกิดเป็นลำกระแสน้ำแคบๆ ในทิศทางที่ตั้งฉากกับชายฝั่ง เพื่อระบายพลังงานและน้ำออกสู่ทะเลภายนอก

Rip Current เกิดขึ้นได้แทบทุกที่ ถ้ามีลักษณะของคลื่นและชายฝั่ง ที่มีผลต่อการไหลของน้ำจากชายฝั่งไปสู่ทะเล เช่น บริเวณทางน้ำไหลออกสู่ทะเล บริเวณปลายแหลม บริเวณที่ชายหาดมีความเว้า หรือมีการสร้างสิ่งกีดขวางลงไปในทะเล

ลักษณะรูปร่างของชายหาด หรือสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้น จะไปขัดขวางทางการไหล ของกระแสน้ำเลียบชายหาด ไม่ให้ไหลต่อไปได้ กระแสน้ำจึงเปลี่ยนทิศทางไหล ออกสู่ทะเลภายนอก และเนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากคลื่น ความรุนแรงของกระแสน้ำ จึงขึ้นอยู่กับความแรงของคลื่น

Credit : www.weather.gov

ที่พบเห็นและเป็นเหตุบ่อยครั้งในไทย คือบริเวณหาดแม่รำพึง จังหวัดระยอง สาเหตุเกิดจาก ภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะ ซึ่งเมื่อเกิดปรากฏการณ์กระแสน้ำย้อนกลับนี้ จะเป็นอันตรายหากผู้ประสบเหตุ ไม่เข้าใจกลไก หรือไม่มีสติ ทำให้ว่ายทวนกระแสน้ำจนหมดแรง และจมน้ำในที่สุด ตามที่ได้รับรู้ข่าวสารเป็นระยะ เกี่ยวกับผู้ประสบอุบัติภัยจากการจมน้ำ ที่มีลักษณะของเหตุการณ์คล้ายๆกันคือ ผู้ประสบภัยมักจะถูกกระแสน้ำดูดลงทะเล  ในขณะที่กำลังเล่นน้ำ และผู้ที่พบเห็นไม่สามารถช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ซ้ำร้ายในบางครั้ง ผู้ที่ลงไปช่วยเหลือ กลับถูกกระแสน้ำดูดทำให้เสียชีวิตไปด้วยกัน

วิธีการสังเกต

สังเกตได้จาก คลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง จะม้วนตัวออกทางช่องว่างระหว่างสันทราย ทำให้เกิดเป็นกระแสน้ำย้อนกลับที่มีกำลังแรง ซึ่งกระแสน้ำย้อนกลับ จะมองเห็นได้จากในที่สูง และเป็นลำกว้างประมาณ 5-10 เมตร มีความเร็วประมาณ 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความสูงของคลื่น รูปร่าง และความลาดชันของฝั่งทะเล รวมทั้งขนาดของตะกอน และสิ่งกีดขวาง

ความอันตราย คือ จะเกิดขึ้นในบริเวณที่ไม่ไกลจากริมฝั่ง ทำให้ผู้ลงเล่นน้ำมีโอกาสประสบเหตุ และตกใจ เพราะเมื่อเข้าไปอยู่ในกระแสน้ำ จะถูกนำไปไกลจากฝั่ง ออกสู่น้ำลึกอย่างรวดเร็ว คนที่ว่ายน้ำไม่แข็ง จึงมักจะจมน้ำ และอาจเสียชีวิตได้

Credit : www.weather.gov

สังเกตอีกประการได้จาก สีของน้ำทะเล เพราะกระแสน้ำ จะพาตะกอนออกไปนอกชายฝั่ง บริเวณที่เกิด จึงจะมีความขุ่นแตกต่างจากน้ำทะเลทั่วไป  มีการไหลวนปั่นป่วน เพราะความแรง และจะมีลักษณะคล้ายรูปดอกเห็ด โดยมีลำยื่นจากชายฝั่ง ส่วนที่เป็นหมวกเห็ดยื่นไปในทะเลลึก ยิ่งหากมีขนาดใหญ่และไกล จะยิ่งมีกำลังมาก

เมื่อใดที่กระแสน้ำไหลเข้าสู่ฝั่งแล้วถูกกีดขวางจากสิ่งต่างๆ เช่น โขดหินหรือสันทราย ไม่ให้ไหลกลับสู่ทะเลได้สะดวก เมื่อมีช่องว่าง กระแสน้ำก็สามารถไหลกลับได้ แต่ยิ่งเป็นร่องแคบ น้ำก็ยิ่งจะไหลแรง ถ้าร่องกว้างน้ำจะไหลช้า และกระจายออกไป

ดังนั้นความเร็วและความแรงขึ้นอยู่กับ รูปร่าง ความสูงของคลื่น และความลาดชันของชายหาด

Credit : Surf Life Saving Australia

วิธีการป้องกันตนเอง

วิธีป้องกันตัวเอง เมื่อตกเข้าไปในกระแสน้ำย้อนกลับ คือ ให้ตั้งสติ อย่าว่ายทวนกระแสน้ำ เพราะจะทำให้หมดแรง พยายามว่ายออกนอกแนวกระแสน้ำเพื่อกลับเข้าฝั่ง  โดยสังเกตว่าชายฝั่งทะเลอยู่ทางทิศใด แล้วว่ายขนานไปกับชายฝั่ง  ลอยตัวในน้ำเมื่อหมดแรง เมื่อพ้นจากบริเวณกระแสน้ำ คลื่นนอกบริเวณก็จะพาเรากลับเข้าฝั่ง

รวมทั้งหากจะลงเล่นน้ำทะเล ควรรู้จักป้องกัน และช่วยเหลือตัวเอง โดยสังเกตป้ายเตือน และไม่ลงเล่นน้ำตามลำพัง ไม่แยกตัวออกไปเล่นไกลจากผู้คน และหากพบว่าสภาพลมฟ้าอากาศไม่ปกติ เช่น มีลมแรง มีคลื่นสูงหรือมีกระแสน้ำลักษณะรูปเห็ด ไม่ควรลงเล่นน้ำเด็ดขาด

Cr : Wikipedia, สำนักบริการวิชาการ ม. บูรพา

error: Content is protected !!