fbpx
News update

พลิกโฉมธุรกิจความงามยุคดิจิทัลด้วย Beauty Tech

Onlinenewstime.com : ในยุคที่ดิจิทัลเข้ามาเป็นหนึ่งในฟันเฟืองหลัก ที่พลิกโฉมธุรกิจของทุกอุตสาหกรรม จุดหลักที่เป็นสิ่งท้าทายของธุรกิจคือ การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค จากอิทธิพลของสมาร์ทโฟน ที่ส่งผลให้ธุรกิจต้องปรับตัว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าจำนวนมหาศาลนี้ให้ได้

สำหรับธุรกิจความงาม ปัจจุบัน นับเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้บริโภคมากที่สุดประเภทหนึ่ง บนช่องทางออนไลน์ และโลกความงามและดิจิทัลก็เริ่มผสมผสานกันได้อย่างลงตัว และเป็นปัจจัยเร่งสำคัญ ที่ช่วยสร้างการเติบโตและสร้างเทคโนโลยีด้านข้อมูลใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยสร้างเสริมประสบการณ์ใช้งาน และเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ให้ผู้บริโภคมากขึ้น

นับว่า ลอรีอัล กรุ๊ป เป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจความงามระดับโลก ก็ได้มีการนำเทคโนโลยี ความเป็นจริงเสริม (AR) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เข้ามาผสมผสานกับโลกความงาม ทำให้ผู้บริโภค ได้ทดลองสีผลิตภัณฑ์เมคอัพผ่านมือถือก่อนสั่งซื้อสินค้า หรือเทคโนโลยีวัดระดับสีผิว ที่ช่วยแนะนำสีรองพื้นที่เหมาะสม นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือระหว่างลอรีอัลกับ LAZADA ในประเทศไทย ในการจัดตั้ง Online Acne Community แห่งแรก สำหรับคนอยากไกลสิว ชูการให้คำแนะนำที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ จากแพทย์ผิวหนังชั้นนำโดยตรง ผ่านโลกออนไลน์ด้วยการ Live  ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ที่ปัจจุบันมักใช้ชีวิตอยู่กับสมาร์ทโฟน และต้องการแสวงหาข้อมูลง่ายๆ เพียงปลายนิ้ว

นางอินเนส คาลไดรา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ลอรีอัล กรุ๊ป เปิดรับการเข้ามาของดิจิทัล และเชื่อว่าจะช่วยสร้างโอกาสในการเรียนรู้ และเข้ามาเสริมศักยภาพในการให้บริการและเข้าถึงผู้บริโภค การก้าวเข้ามาของดิจิทัล เรียกได้ว่าเป็นการปฏิวัติทุกกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่เว้นแม้แต่ความงาม ลอรีอัล จึงทำการพลิกโฉมธุรกิจความงาม ที่เราได้ดำเนินงานมากว่า 100 ปี มุ่งเป็นผู้นำด้าน Beauty Tech เพื่อก้าวทันความเปลี่ยนแปลง

สำหรับอุตสาหกรรมความงาม การเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลถือเป็นปัจจัยบวก และเป็นช่องทางที่ช่วยเพิ่มการเติบโตให้แก่ตลาด

อย่างไรก็ตามฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจก็คือพนักงาน เมื่อดิจิทัลกลายเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจ พนักงานทุกๆ คน ก็ควรได้รับการปลูกฝังแนวคิดและวิธีการทำงานในยุคดิจิทัล ซึ่ง ลอรีอัล กรุ๊ป มีบุคลากรด้านดิจิทัลกว่า 2,500 คน ที่ได้รับการเตรียมพร้อม และเพิ่มทักษะด้านดิจิทัลควบคู่ไปกับพนักงานปัจจุบันกว่า 27,000 คน และลอรีอัลยังเปิดรับการเข้ามาของคนรุ่นใหม่ ที่องค์กรเชื่อมั่นว่าจะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญ ที่ขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า ทั้งยังสนับสนุนการร่วมงานกับพันธมิตรสตาร์ทอัพต่างๆ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจ

ใน 5 ปีที่ผ่านมา ลอรีอัล กรุ๊ปได้เร่งการดำเนินงาน เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงโดยมีแนวทาง 4 ประการ ได้แก่ ปรับธุรกิจให้เข้ากับยุคสมัย เพื่อให้ธุรกิจสามารถประสบความสำเร็จได้ การดำรงไว้ซึ่งความถนัดขององค์กร ไม่ลงต่อสู้ในสนามการแข่งขันทางธุรกิจที่ไม่ถนัด มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อก้าวให้ทันต่อกระแสและการเปลี่ยนแปลงที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ และทำงานอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อร่วมผลักดันการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกันทั้งองค์กร

เทคโนโลยีได้เข้ามาช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จของลอรีอัล กรุ๊ป ทั้งธุรกิจอี-คอมเมิร์ซที่เติบโตถึง 41% เป็นสัดส่วนกว่า 11% ของยอดขายบริษัทฯ พร้อมทั้งยอดคนดูในวิดีโอทุกช่องทางของลอรีอัลกว่า 6.3 พันล้านครั้ง ไปจนถึงทำงานร่วมกับ Influencers ในโลกดิจิทัลกว่า 80,000 คนทั่วโลก นอกจากนั้นแล้ว ลอรีอัล ยังได้ทุ่มทรัพยากรในหน่วยงานด้านดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ อี-คอมเมิร์ซ การให้บริการด้านดิจิทัล เนื้อหาทางดิจิทัล และ การบริหารจัดการข้อมูล

นางอินเนส กล่าวเสริมว่า “การพลิกโฉมธุรกิจด้วยดิจิทัล นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องที่องค์กรควรจะนำมาปรับใช้ หรือเป็นแค่เรื่องของการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้องค์กรดูทันสมัย แต่การพลิกโฉมธุรกิจด้วยดิจิทัลคือ ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสามารถดำรงอยู่รอดในการแข่งขันได้ อย่างมั่นคงและประสบความสำเร็จ ลอรีอัลยึดมั่นในสิ่งที่เราเริ่มต้นทำมาโดยตลอด และเราจะยังคงมุ่งมั่นในการส่งมอบความงามให้แก่ทุกคนตามเป้าหมาย ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดย ลอรีอัลจะเดินหน้าการดำเนินงาน Beauty Tech อย่างเต็มรูปแบบเพื่อสร้างประสบการณ์ความงามที่ตอบรับทุกความต้องการของผู้บริโภคในยุคดิจิทัล”