
Onlinenewstime.com : อพท. ต่อยอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม นำร่องเปิดตัว 10 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ใน 3 จังหวัดแดนอีสานใต้ หวังใช้การท่องเที่ยว ช่วยให้เกิดการเรียนรู้และสืบทอดต่อไปอย่างยั่งยืน เล็งขยายผลปี 64 พัฒนาเพิ่มอีก 5 กิจกรรม เพื่อครอบคลุม 5 จังหวัด
ดร.ชูวิทย์ มิตรชอบ รักษาการแทนผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. เปิดเผยว่า จากที่ได้มอบนโยบาย ให้สำนักงานพื้นที่พิเศษ 2 หรือ อพท. 2 ไปดำเนินการสำรวจศักยภาพและความโดดเด่นทางวัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของพื้นที่และชุมชน ในเขตภาคอีสานตอนใต้ จากข้อมูลพบว่าพื้นที่ดังกล่าว มีความสมบูรณ์ในเรื่องของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่สามารถนำมาพัฒนายกระดับ เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์

“การพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ให้เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ เป็นอีกหนึ่งแนวทาง การพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เพราะมรดกทางภูมิปัญญา เป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ จึงมีความเสี่ยงที่จะสูญหายไปได้ตามกาลเวลา และวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป
หากเรานำองค์ความรู้ด้านการจัดการการท่องเที่ยว เข้ามายกระดับและพัฒนาให้เกิดเป็นกิจกรรมทางการท่องเที่ยว ก็จะสามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ประโยชน์ทางอ้อมคือ ทำให้เกิดการเรียนรู้ และสืบทอดไปอย่างไม่มีวันจบสิ้น ซึ่งสิ่งนั้นถือเป็นความยั่งยืน”
ทั้งนี้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO)ได้บัญญัติอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ (Convention for the Safeguarding of the Intangible Culture Heritage) ค.ศ. 2003 ขึ้นเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และความร่วมมือจากนานาชาติ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาดังกล่าว ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 และประเทศไทยได้มีการออกพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม พ.ศ. 2559 เพื่อเป็นการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติด้วย
สำหรับในเรื่องนี้ อพท. เห็นว่าการพัฒนามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ให้เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์อารยธรรมอีสานใต้ จะเป็นการอนุรักษ์และการสืบทอดวัฒนธรรมให้มีชีวิตขึ้นมา โดยการให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเรียนรู้ สัมผัสกับคนที่เป็นเจ้าของวัฒนธรรมด้วยตัวเอง จะทำให้เกิดความซาบซึ้ง ประทับใจ และเกิดความยั่งยืน ในมิติทางวัฒนธรรม ชุมชนเองจะมีรายได้เสริม จากการท่องเที่ยวทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
นายพลากร บุปผาธนากร ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์และรักษาการผู้จัดการสำนักงานพื้นที่พิเศษ 2 อพท. กล่าวว่า พื้นที่อีสานใต้ประกอบด้วย 5 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี ในปีงบประมาณ 2563 อพท. 2 พัฒนากิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์จากภูมิปัญญาและวัฒนธรรมใน 3 จังหวัด รวม 10 กิจกรรม ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ และจังหวัดสุรินทร์ ประกอบด้วย
1) กิจกรรมเพลงโคราช
2) กิจกรรมรำโทนพันปี
3) กิจกรรมเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียน 4
กิจกรรมผ้าภูอัคนี 5)
ผ้าไหมหางกระรอกคู่ตีนแดง 6
กิจกรรมนวดไทยคลายเส้น
7) กิจกรรมวิถีคนเลี้ยงช้าง
8) กิจกรรมเรียนรู้วัฒนธรรมชาวกูย
9) กิจกรรมศิลปะการแสดงกะโน้บติงตอง และ
10) กิจกรรมศิลปะการแสดงกันตรึม
และในปีงบประมาณ 2564 วางแผนพัฒนากิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ในรูปแบบเดียวกันนี้ในอีก 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 5 กิจกรรม
อย่างไรก็ตามการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ในรูปแบบของ อพท. ต้องเป็นไปด้วยความสมัครใจ และความพร้อมของชุมชน ที่ต้องการจะยกระดับภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของตัวเองที่มีอยู่ ให้เป็นกิจกรรมทางการท่องเที่ยว
จากนั้นจึงทำกระบวนการทำความเข้าใจ กับเจ้าของกิจกรรม คัดเลือกกิจกรรมที่นำมาต่อยอดได้ แล้วจึงเข้าสู่กระบวนการออกแบบกิจกรรม การพัฒนาบุคลากรต้อนรับนักท่องเที่ยว การพัฒนานักสื่อความหมาย การให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดสถานที่ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ตลอดจนการให้บริการกับนักท่องเที่ยว เพื่อให้เกิดความประทับใจ การคิดราคาจากกิจกรรมที่พัฒนา การจัดเก็บข้อมูลรายได้ของเจ้าของกิจกรรม และการจัดกิจกรรมทดลองรับนักท่องเที่ยว
เมื่อสำเร็จและมีความพร้อมดีแล้ว ล่าสุด อพท. จึงได้จัดกิจกรรมเปิดตัว 10 กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ 2564 เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้ และประชาสัมพันธ์สู่หน่วยงานภาคีเครือด้านการตลาดต่อไป