www.onlinenewstime.com : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ หอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ ประเทศเยอรมนี ในฐานะผู้จัดงานอย่างเป็นทางการของงาน THAIFEX – World of Food Asia ร่วมกันจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก “THAIFEX – World of Food ASIA 2019”

นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า THAIFEX – World of Food Asia เป็นงานแสดงสินค้าและเครื่องดื่มระดับนานาชาติ ซึ่งปีนี้ จัดขึ้นเป็นปีที่ 28 และเป็นครั้งที่ 16 ที่ร่วมงาน กับออแกไนเซอร์ งานแสดงสินค้าระดับโลกอย่างโคโลญเมสเซ่ จากประเทศเยอรมนี
ความยิ่งใหญ่ของงานนี้ ทำให้มีผู้ประกอบการด้านอาหาร และเครื่องดื่ม จากทั่วโลกมาร่วมแสดงสินค้าเป็นจำนวนมาก และยังมีผู้ซื้อจากทั่วโลก พร้อมใจกันเดินทาง มาร่วมเจรจาธุรกิจ โดยในแต่ละครั้ง จะมีมูลค่าการซื้อขาย และก่อให้เกิดการส่งออกสินค้าอาหาร และเครื่องดื่มมากกว่า 10,000 ล้านบาท
สำหรับผู้ประกอบการ จากประเทศต่างๆนั้น มาจาก กว่า 40 ประเทศ อาทิ เอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ลาตินอเมริกา แอฟริกา โดยมาร่วม จัดแสดงสินค้า กว่า 2,700 บริษัท 6,000 คูหา ซึ่งเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้
โดยมีผู้ลงทะเบียน เข้าชมงาน ล่วงหน้ากว่า 7,300 คน จาก 106 ประเทศ อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ อเมริกา ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี จีน ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อินเดีย ซึ่งคาดการณ์ว่า ตลอด ทั้งงาน จะมีผู้เข้าชมงานกว่า 130,000 คน และมีมูลค่าการซื้อขาย 11,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการซื้อขาย ในวันเจรจาการค้า 11,445 ล้านบาท และการจำหน่ายปลีก 55 ล้านบาท
นอกจากจะมีการจัดแสดงสินค้า เทคโนโลยีและบริการ ทางด้านอาหารแล้ว งานนี้ยังเปิดโอกาส ให้ผู้ชมงาน ได้มาอัพเดตสถานการณ์ และเทรนด์ของธุรกิจอาหาร ที่มีความทันสมัย และมีนวัตกรรมที่น่าสนใจ ผ่านกิจกรรมพิเศษ นิทรรศการ การประกวด และการสัมมนา

อาทิ การแข่งขันทำอาหาร การสัมมนาเกี่ยวกับนวัตกรรม และเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์อาหารไทย ในการเป็นครัวของโลก กิจกรรมส่งเสริมผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูป และร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai Select
การสาธิตปรุงอาหาร โดยเชฟคนไทย ที่มีชื่อเสียงระดับโลก กิจกรรมส่งเสริมนวัตกรรมและการออกแบบ ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหาร การนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหาร สำหรับผู้สูงอายุ การแสดงผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่น นิทรรศการเทรนด์อาหารของโลก
“กิจกรรมปีนี้ ยังมีความพิเศษกว่าทุกปี เนื่องจาก มีกิจกรรมใหม่ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก อาทิ การจัดแสดง ของผู้ประกอบการ ที่มีศักยภาพรายใหม่ ที่ได้รับการคัดสรร จากพาณิชย์จังหวัดกว่า 104 บริษัท
กิจกรรมสำหรับสินค้าอาหารอนาคต และสตาร์ทอัป และสัมผัสประสบการณ์และเทรนด์อาหารอาเซียน งานนี้จึงเป็นงาน ที่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ผู้ส่งออก และผู้สนใจในธุรกิจอาหาร ตลอดจนร้านค้าปลีก-ค้าส่ง ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร และโรงแรม ไม่ควรพลาด ที่จะเข้ามาชม”
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เทรนด์ของอุตสาหกรรมอาหาร มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจน สืบเนื่องจากผู้บริโภค หันมาให้ความสำคัญ กับการเลือกอาหาร ที่มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ส่งผลให้ผู้ประกอบการ มีความตื่นตัวในการผลิตสินค้า ที่คำนึงถึงความต้องการ ในด้านดังกล่าวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เทรนด์เรื่องเทคโนโลยี และดิจิทัล ยังเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคสนใจ ซึ่งขณะนี้ ผู้ประกอบการ ได้เร่งพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภค จากการศึกษา การเปลี่ยนแปลงของธุรกิจ SME ในอาเซียน พบว่าประเทศไทย ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านเทคโนโลยี มากที่สุดในอาเซียน
โดยเฉพาะการลงทุน ด้านซอฟต์แวร์ต่าง ๆ เช่น แอปพลิเคชั่นบนมือถือ ที่ให้บริการ และอำนวยความสะดวก แก่ผู้บริโภค ดังนั้นงาน THAIFEX ปีนี้ จึงได้รวบรวมเทรนด์สินค้าอาหาร ที่อยู่ในกระแสความสนใจ มานำเสนอ รวมทั้งมีการสัมมนา ให้ความรู้ ด้านนวัตกรรมอาหาร และเทคโนโลยี ที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์อาหาร และบริการมีมูลค่าสูงขึ้น
“งานนี้มีเป้าหมาย ที่จะเป็นสื่อกลาง และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ให้กับผู้ประกอบการไทยให้ก้าวไปสู่ระดับสากล โดยเปิดโอกาส ให้ผู้ประกอบการ นำสินค้าใหม่ มานำเสนอแก่ผู้ซื้อ ที่มีศักยภาพจากทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นโอกาส ที่จะได้รวบรวมข้อเสนอแนะ จากผู้ซื้อ เพื่อนำไปพัฒนาสินค้า ให้ตรงกับความต้องการมากขึ้น
กล่าวได้ว่างานนี้ มีบทบาทสำคัญ ในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของประเทศไทย เป็นการตอกย้ำ การเป็นงานแสดงสินค้าอาหาร และเครื่องดื่ม อันดับหนึ่งในเอเชียสำหรับผู้ซื้อทั้งในภูมิภาคนี้และทั่วโลก”
ทางด้าน นายแมธเธียส คูเปอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โคโลญเมสเซ่ จำกัด ได้เปิดเผย ถึงกิจกรรม การเจรจาธุรกิจภายในงานว่า ให้ความสำคัญ กับการเจรจาทางธุรกิจ เป็นอันดับหนึ่ง โดยปีนี้ ได้เพิ่มช่องทางออนไลน์ เพื่อให้เกิดการจับคู่ทางธุรกิจ ได้สะดวก และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
รวมถึงให้ความสำคัญ กับการบริการ โดยอำนวยความสะดวก กับการลงทะเบียน และการเดินทาง ให้ผู้ร่วมเจรจาธุรกิจ และผู้เข้าร่วมงาน อาทิ ตั้งตู้รับบัตรเข้างานอัตโนมัติ เพื่อผู้ลงทะเบียนล่วงหน้า สามารถใช้บริการ Self-Check-in ได้ และจัดทำบัตรสมาชิก THAIFEXclusive สำหรับผู้ที่เข้าชมงาน ติดต่อกัน 2 ปี ให้สามารถเข้ารับบริการ และ ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ และไม่ต้องลงทะเบียน เข้าชมงานในครั้งต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการอำนวยความสะดวก ในด้านการเดินทาง ทุกรูปแบบ รวมถึงการเดินทางโดยเรือ (Shuttle Boat) ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อให้ผู้เข้าชมงาน จากต่างประเทศได้ผ่อนคลาย และชื่นชมธรรมชาติ และสถานที่สำคัญริมแม่น้ำเจ้าพระยา อีกทั้งยังเป็นการลดปัญหาการจราจร และส่งเสริมการท่องเที่ยว ของประเทศไทยด้วย
สำหรับงาน THAIFEX – World of Food Asia 2019 จัดขึ้นที่ IMPACT Challenger Hall 1-3 และ IMPACT EXHIBITION Hall 5-12 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่าง วันที่ 28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2562
โดยวันที่ 28–31 พฤษภาคม เวลา 10.00 – 18.00 น. เป็นวันเจรจาธุรกิจ ส่วนวันที่ 1 มิถุนายน เวลา 10.00 – 20.00 น. เป็นวันเจรจาธุรกิจและจำหน่ายปลีก
