Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ ฮาคูโฮโด เผย คนไทยแต่ละอาชีพมีวิธีฮีลใจที่แตกต่างกัน

Onlinenewstime.com : สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) หรือ Hakuhodo Institute of Life and Living ASEAN (THAILAND) เผยผลสำรวจประจำเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2568 ว่า เป็นช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา คนไทยเจอปัญหารุมเร้าทั้งความขัดแย้งในประเทศและนอกประเทศ ทำให้บรรยากาศในใจหมองหม่น ดัชนีความสุขลดลงและมีแนวโน้มว่าจะลดลงอย่างต่อเนื่องในอีก 3 เดือนข้างหน้า ถือเป็นช่วงเวลาที่คนไทยต้องการสิ่งที่ช่วยฮีลใจเพื่อเติมแรงใจให้มีพลังไปต่อ

ถึงแม้เศรษฐกิจจะซบเซาเนื่องจากผลกระทบจากหลาย ๆ ด้าน แต่แนวโน้มในการใช้จ่ายของคนไทยช่วงเดือนสิงหาคมนี้กลับมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับผลสำรวจเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (66 Vs 63) ด้วยหนึ่งเหตุผลสำคัญคือ ช่วงเทศกาลวันแม่ ที่เข้ามาช่วยให้คนไทยได้มีช่วงเวลาที่ฮีลใจของตัวเองและครอบครัว ทำให้คนไทยได้เริ่มวางแผนใช้เวลากับครอบครัว

ซึ่งแนวโน้มการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ ในหมวดสิ่งของที่ต้องการใช้จ่ายส่วนใหญ่ คือสิ่งที่ช่วยเติมพลังใจและดูแลตัวเอง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า ความงาม สมาร์ตโฟนและคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการกินข้าวนอกบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มมของขวัญและอาหารมื้อพิเศษ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากการเตรียมความพร้อมรับเทศกาลวันแม่

ด้วยสภาพจิตใจของผู้บริโภคขณะนี้แล้ว คงจะไม่ใช่ช่วงเวลาที่แบรนด์ต่าง ๆ จะขายของยัดเยียดโปรโมชันแบบฮาร์ดเซล แต่นี่ถือเป็นช่วงเวลาทองของแบรนด์ที่จะได้แสดงออกถึงความเข้าอกเข้าใจคนไทย 

คุณอรุณโรจน์ เหล่าเจริญวงศ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์  สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) จึงได้เสนอแนวทางการจัดแคมเปญเพื่อส่งเสริมการขายให้เข้ากับสถานการณ์จิตใจของคนไทยไว้ 2 ข้อ คือ

1. แคมเปญ: “เงียบไว้ ให้ใจพัก”

จากผลสำรวจทั้งหมดทำให้เห็นว่า คนไทยเกือบครึ่งเลือกฮีลใจด้วยความเงียบและการอยู่กับตัวเอง แบรนด์สามารถอยู่เป็นเพื่อนเงียบ ๆ ที่อยู่เคียงข้างในวันที่ใจต้องการพัก เช่น ชวนผู้บริโภคแชร์ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเองแล้วใจดีขึ้น

จัดทำคอนเทนต์ละมุนใจแนว ASMR หรือ ชุดภาพพร้อมทำปลอบใจ พร้อมใส่โค้ดพิเศษสำหรับผู้ที่ดูจนจบ เช่น SILENT10 หรือ โปรเฉพาะช่วงโลกเงียบ 22.00-02.00 น. พร้อมข้อความ “ถ้าคุณยังไม่นอน… เรามีของบางอย่างไว้ให้ใจคุณได้พักพิง”

2. พื้นที่ พักใจวันแม่

ในช่วงเทศกาลวันแม่ในเดือนสิงหาคมนี้เอง แบรนด์สามารถจับมือกับ คาเฟ่ ร้านหนังสือ หรือ Co-space เพื่อจัดพื้นที่อีเวนต์ “พักใจแม่” ให้แม่และลูกได้มาใช้เวลาร่วมกัน

มีกิจกรรมแบ่งตาม Heart Type เช่น พื้นที่เงียบสำหรับแม่สายสงบ, ห้องคุยแม่-ลูกสำหรับสายแชร์, มินิโยคะหรือกิจกรรมปลูกต้นไม้สำหรับสายขยับ, ห้องสวดมนต์พักใจสำหรับสายศรัทธา ทุกพื้นที่เหล่านี้สามารถแทรกผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของแบรนด์ให้อยู่ร่วมในทุกบริบทของกิจกรรมได้

สำรวจฉบับนี้เองจะเห็นได้ว่า คนไทยมีวิธีการเยียวยาจิตใจของตนเองที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคนไทยกว่า 46% เลือกฮีลใจด้วยความเงียบ และใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และกว่า 38% เลือกที่จะปล่อยให้เวลาดำเนินไปให้เวลาช่วยเยียวยาจิตใจและเชื่อว่าเดี๋ยวมันก็ดีขึ้นเอง และกว่า 35% เลือกที่จะพึ่งพาธรรมชาติ เติมพลังจากลม แดด และสีเขียว ให้ธรรมชาติช่วยบำบัดจิตใจ

นอกจากวิธีฮีลใจ top 3 นี้เอง คุณธัชชัย กลีบบัว ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ สถาบันวิจัยความเป็นอยู่ฮาคูโฮโด อาเซียน (ประเทศไทย) ได้มองเห็นความแตกต่างในการฮีลใจของแต่ละอาชีพ ดังนี้

ความสนใจของคนไทยในขณะนี้จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าครึ่งปีที่ผ่านมา มีข่าวใหญ่มากมายที่เกิดขึ้นและกระทบกับความรู้สึกของคนไทย ทั้งการเมือง ความขัดแข้ง และวิกฤตโลก

หลายคนเริ่มตั้งการ์ดสูงเพื่อป้องกันตัวเอง เพราะรู้ว่าการเสพข่าวแบบไม่พัก อาจทำร้ายจิตใจของตัวเองได้โดยไม่รู้ตัว บางคนจึงเลือกหาข่าวเบา ๆ อย่างข่าวบันเทิง กีฬา มาช่วยเติมพลังใจ ซึ่งการเลือกสนใจสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่เพื่อหนีความเป็นจริง แต่เพื่อพักผ่อนจิตใจก่อนกลับไปรับมือกับความจริงที่โลกยังไม่หยุดสั่นคลอน

Exit mobile version