Site icon Onlinenewstime.com – News and Knowledge to sustainability

7 เดือนปี ‘68 ต่างชาตินำเงินลงทุนเข้าไทยแตะ 1.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี ‘67 กว่า 7 หมื่นล้านบาท

Onlinenewstime.com : นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เปิดเผยว่า 7 เดือน ปี 2568 (มกราคม – กรกฎาคม) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 583 ราย

โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 150 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 433 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 159,460 ล้านบาท

1. ญี่ปุ่น 112 ราย คิดเป็นร้อยละ 19 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 69,817 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ  

2. สหรัฐอเมริกา 85 ราย คิดเป็นร้อยละ 15 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 3,238 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ 

3. สิงคโปร์ 74 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ ลงทุน 22,872 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ

4. จีน 73 ราย คิดเป็นร้อยละ 13 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติ ลงทุน 20,029 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ

5. ฮ่องกง 64 ราย คิดเป็นร้อยละ 11 ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 11,467 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ

การเข้ามาประกอบธุรกิจของคนต่างชาติในไทยโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมข้างต้น มีส่วนช่วยในการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมหลุมขุดเจาะ

องค์ความรู้เกี่ยวกับบำรุงรักษางานระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในโครงการรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการบำรุงรักษาสถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว องค์ความรู้เกี่ยวกับสถานีจัดประจุไฟฟ้า เป็นต้น

เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 123 ราย (27%) (เดือน ม.ค. – ก.ค.68 อนุญาต 583 ราย / เดือน ม.ค. – ก.ค.67 อนุญาต 460 ราย) และมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้น 68,473 ล้านบาท (75%) (เดือน ม.ค. – ก.ค.68 ลงทุน 159,460 ล้านบาท / เดือน ม.ค. – ก.ค.67 ลงทุน 90,987 ล้านบาท)

รวมถึงมีการจ้างงานคนไทยจากนักลงทุนที่ขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวเพิ่มขึ้น 1,940 คน (90%) (เดือน ม.ค. – ก.ค.68 จ้างงาน 4,085 คน / เดือน ม.ค. – ก.ค. 67 จ้างงาน 2,145 คน) โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคงเป็นนักลงทุนญี่ปุ่นเช่นเดียวกับปีก่อน

อธิบดีอรมน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ช่วง 7 เดือน ปี 2568 (มกราคม – กรกฎาคม) มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 176 ราย คิดเป็น 30% ของจำนวนนักลงทุนต่างชาติในไทย เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 จำนวน 39 ราย (28%) (เดือน ม.ค. – ก.ค.68 ลงทุน 176 ราย / เดือน ม.ค. – ก.ค.67 ลงทุน 137 ราย)

โดยมีมูลค่าการลงทุนในพื้นที่ EEC 73,186 ล้านบาท คิดเป็น 46% ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยเป็นนักลงทุนจากประเทศ *ญี่ปุ่น 44 ราย ลงทุน 26,937 ล้านบาท *จีน 43 ราย ลงทุน 14,442 ล้านบาท *ฮ่องกง 18 ราย ลงทุน 5,264 ล้านบาท และประเทศอื่นๆ 71 ราย ลงทุน 26,543 ล้านบาท โดยธุรกิจที่ลงทุน อาทิ

เฉพาะเดือนกรกฎาคม 2568 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจในไทย 81 ราย เป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 27 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (ผ่านช่องทางการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และการใช้สิทธิตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างประเทศ) 54 ราย เงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 47,954 ล้านบาท

ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจาก ญี่ปุ่น ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา ตามลำดับ มีการจ้างงานคนไทย 799 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมหลุมขุดเจาะ องค์ความรู้เกี่ยวกับระบบเชื่อมโลหะสำหรับส่งก๊าซและน้ำมัน องค์ความรู้เกี่ยวกับการออกแบบและกระบวนการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCBA) เป็นต้น

Exit mobile version