fbpx
News update

ภาวะเศรษฐกิจการคลังในเดือนมีนาคม 2566 ท่องเที่ยวและภาคการเกษตรดี ส่งออกลดลง

Onlinenewstime.com : “เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและภาคการเกษตรที่ขยายตัวได้ดี อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐยังคงหดตัว แต่ในอัตราที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า”

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนมีนาคม 2566 ว่า “เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและภาคการเกษตรที่ขยายตัวได้ดี อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐยังคงหดตัว แต่ในอัตราที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า” โดยมีรายละเอียดสรุปได้ ดังนี้

เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมีนาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 20.1

การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2566 ลดลงจากเล็กน้อยช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -0.9 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 2.1 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนมีนาคม 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 53.8 จากระดับ 52.6 ในเดือนก่อน

ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และสูงสุดในรอบ 37 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น รวมถึงความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนมีนาคม 2566 ลดลงจาก
ช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -0.2 และ -2.5 ตามลำดับ

เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชน
ในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนและปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนมีนาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -2.2 และ -12.6 ตามลำดับ

สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนมีนาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -0.3 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 1.7

ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 29.0 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -3.5  

มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวแต่ในอัตราที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวม
ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 27,654.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวในอัตราชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่ร้อยละ -4.2 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย

พบว่า ขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.01 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวได้หลายรายการ อาทิ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง น้ำตาลทราย และข้าว โดยขยายตัวร้อยละ 94.5 73.9 และ 7.2 ตามลำดับ

รวมทั้งสินค้าเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 27.4 และ 5.0 ตามลำดับ อย่างไรก็ดี สินค้าส่งออกที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันที่ลดลง เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกชะลอลง

ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวของประเทศคู่ค้า

อย่างไรก็ดี ตลาดที่ยังคงขยายตัว อาทิ ตลาดญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่ขยายตัวร้อยละ 10.2 5.2 4.7 และ 4.0 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States: CIS) ขยายตัวถึงร้อยละ 228.0  

เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ในเดือนมีนาคม 2566 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 9.9 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 1.2 จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ อาทิ ยางพารา หมวดไม้ผล และหมวดปศุสัตว์ เป็นต้น

สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม 2566 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 97.8 ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี จากระดับ 96.2 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบของดัชนีฯ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ และการขยายตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว

อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยกดดันจากอุปสงค์ของต่างประเทศที่ชะลอตัว สำหรับภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนมีนาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.22 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 953.0 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 22.4 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน รัสเซีย อินเดียและเกาหลีใต้ ตามลำดับ

เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี และแรงกดดันจากระดับราคาสินค้าลดลงต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 2.83 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.75 ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ร้อยละ 61.1 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ ในเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 0.69 ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งหมด

สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 อยู่ในระดับสูงที่ 224.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

“เศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม 2566 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวและภาคการเกษตรที่ขยายตัวได้ดี อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐยังคงหดตัว แต่ในอัตราที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า” โดยมีรายละเอียดสรุปได้”

1. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน สะท้อนจากปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนมีนาคม 2566 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 20.1 การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ ในเดือนมีนาคม 2566 ลดลงจากเล็กน้อยช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ -0.9

แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 2.1 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนมีนาคม 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 53.8 จากระดับ 52.6 ในเดือนก่อน

ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 10 และสูงสุดในรอบ 37 เดือน สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้น รวมถึงความกังวลจากอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง

อย่างไรก็ดี ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่ง และรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนมีนาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -0.2 และ -2.5 ตามลำดับ

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชน256525652566
Q1Q2Q3Q4Q1ก.พ.มี.ค.YTD
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่
(%
yoy)
6.4%14.0%7.1%7.3%−2.0%-0.5%-1.5%-0.9%-0.5%
%qoq_SA / %mom_SA0.9%1.0%1.1%-4.7%2.3%-1.1%2.1% 
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง5.3%16.0%9.2%16.2%-14.8%2.3%10.1%-0.2%2.3%
%qoq_SA / %mom_SA8.5%-7.1%-2.5%-13.6%30.1%12.0%-0.7% 
ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่
(%YoY)
12.0%3.2%6.0%38.5%6.3%13.5%9.8%20.1%13.5%
%qoq_SA / %mom_SA−1.8%6.2%3.4%-1.4%4.8%4.0%-0.4% 
ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค
(%YoY)
-1.4%5.6%0.9%−0.6%-10.6%-2.7%-1.9%-1.7%-2.7%
%qoq_SA / %mom_SA-1.4%−0.1%−2.0%-7.2%6.5%2.6%0.6% 
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (ระดับ)43.943.440.843.647.952.752.653.852.7
รายได้เกษตรกรที่แท้จริง
(%YoY)
7.1%2.5%7.6%7.9%9.8%2.3%9.0%-2.5%2.3%

2. เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการลงทุนภาคเอกชน ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการลงทุนภาคเอกชน
ในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณนำเข้าสินค้าทุนและปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ ในเดือนมีนาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -2.2 และ -12.6 ตามลำดับ

สำหรับการลงทุนในหมวดการก่อสร้าง สะท้อนจากปริมาณการจำหน่ายปูนซีเมนต์ภายในประเทศ ในเดือนมีนาคม 2566 ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -0.3 แต่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 1.7 ขณะที่ภาษีธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 29.0 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -3.5  

เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน256525652566
Q1Q2Q3Q4Q1ก.พ.มี.ค.YTD
เครื่องชี้การลงทุนในเครื่องจักร         
ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุน
(%
YoY)
−1.2%8.1%3.6%−4.7%−10.7%-5.6%-1.5%-2.2%−5.6%
%qoq_SA / %mom_SA1.8%1.4%−6.4%−7.4%7.2%7.3%-1.4% 
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์
(%YoY)
15.2%20.6%9.7%37.5%−0.2%−10.2%−10.0%-12.6%−10.2%
%qoq_SA / %mom_SA15.9%−3.6%1.3%−11.9%4.0%0.8%-3.6% 
เครื่องชี้การลงทุนก่อสร้าง    
ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์
(%YoY)
13.4%−1.8%18.4%21.9%14.6%19.3%13.7%29.0%19.3%
%qoq_SA / %mom_SA0.3%19.9%−6.9%1.2%4.5%5.4%-3.5% 
ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์
(%
YoY)
−2.5%0.0%−7.8%2.8%−4.7%-3.3%−4.3%-0.3%−5.0%
%qoq_SA / %mom_SA2.0%−4.5%−1.0%−0.8%2.7%0.2%1.7% 
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง
(%YoY)
5.7%7.2%6.9%5.6%3.5%2.2%2.6%0.6%2.2%

3. การใช้จ่ายงบประมาณ การเบิกจ่ายงบประมาณ ในเดือนมีนาคม 2566 เบิกจ่ายได้รวมจำนวน 264.6 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 248.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นการเบิกจ่ายรายจ่ายประจำ 200.8 พันล้านบาท และรายจ่ายลงทุน 47.4 พันล้านบาท และเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน 16.2 พันล้านบาท ทำให้ในช่วง 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2566 มีการเบิกจ่ายรวม 1,795.4 พันล้านบาท โดยเป็นการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีปัจจุบันจำนวน 1,692.0 พันล้านบาท แบ่งเป็นรายจ่ายประจำ 1,459.3 พันล้านบาท รายจ่ายลงทุน 232.6 พันล้านบาท และการเบิกจ่ายจากงบประมาณปีก่อน103.4 พันล้านบาท

เครื่องชี้
ภาคการคลัง
FY2565FY2565  FY2566
Q1Q2Q3Q4Q1Q2ก.พ.มี.ค.FY/YTD
รายจ่ายปีปัจจุบัน2,932.5983.6606.3679.2663.3982.2709.8243.5248.31,692.0
 %YoY−2.64.8−1.10.3−15.4-0.117.161.0-8.86.4
รายจ่ายประจำ2,516.5886.6515.2570.8543.8858.7600.5208.7200.81,459.3
%YoY−2.62.4−2.13.2−14.9-3.116.671.9-13.24.1
รายจ่ายลงทุน415.997.091.0108.4119.5123.4109.234.747.4232.6
%YoY−2.932.95.0−12.3−17.527.320.016.715.923.8
รายจ่ายปีก่อน213.675.557.631.848.758.944.512.816.2103.4
%YoY8.7-5.36.418.736.1-22.0-22.7-26.7-24.4-22.3
รายจ่ายรวม3,146.21,059.1663.9711.0712.01,041.1754.3256.4264.61,795.4
%YoY−2.04.0−0.51.0−13.1-1.713.651.910.04.2

4. มูลค่าการส่งออกสินค้าหดตัวแต่ในอัตราที่ลดลงจากเดือนก่อนหน้า โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวม
ในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ 27,654.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวในอัตราชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -4.2 และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ขยายตัวเล็กน้อยที่ร้อยละ 0.01

ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสินค้าเกษตรและสินค้าอุตสาหกรรมเกษตรขยายตัวได้หลายรายการ อาทิ ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็ง และแห้ง น้ำตาลทราย และข้าว โดยขยายตัวร้อยละ 94.5 73.9 และ 7.2 ตามลำดับ รวมทั้งสินค้าเครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และรถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ ขยายตัวร้อยละ 27.4 และ 5.0 ตามลำดับ

อย่างไรก็ดี สินค้าส่งออกที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันที่ลดลง เนื่องจากอุปสงค์ในตลาดโลกชะลอลง ทั้งนี้ เมื่อพิจารณามูลค่าการส่งออกสินค้า โดยจำแนกเป็นรายตลาดคู่ค้าหลักของไทย พบว่า ส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงตามอุปสงค์ที่ชะลอตัวของประเทศคู่ค้า

ในส่วนของตลาดที่ยังคงขยายตัว อาทิ ตลาดญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาหลีใต้ และไต้หวัน ที่ขยายตัวร้อยละ 10.2 5.2 4.7 และ 4.0 ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีตลาดรัสเซียและกลุ่มประเทศเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States: CIS) ขยายตัวถึงร้อยละ 228.0

ประเทศคู่ค้าหลัก
16 ประเทศ
สัดส่วน256525652566
2565Q1Q2Q3Q4Q1ก.พ.มี.ค.YTD
ส่งออกไปทั้งโลก100.0%5.5%14.7%10.7%6.6%-8.5%-4.5%-4.7%-4.2%-4.5%
สหรัฐฯ16.6%13.4%23.1%17.8%15.9%-1.3%-3.9%-9.5%1.7%-3.9%
จีน12.2%-7.7%4.1%-1.9%-18.1%-13.4%-7.4%-7.9%-3.9%-7.4%
ญี่ปุ่น8.6%-1.3%1.2%0.9%-0.2%-7.1%-0.2%-2.5%10.2%-0.2%
สหภาพยุโรป (15)8.4%6.5%6.9%4.9%17.0%-2.0%-2.6%-1.2%-7.6%-2.6%
ทวีปออสเตรเลีย4.7%1.7%-2.4%-3.9%18.1%-3.1%-14.2%-9.2%-23.3%-14.2%
เวียดนาม4.6%5.5%-1.4%1.2%28.7%-1.2%-11.5%-12.0%-6.1%-11.5%
มาเลเซีย4.4%5.1%12.3%7.4%31.2%-21.5%-9.3%-7.9%-6.1%-9.3%
ฮ่องกง3.5%-13.0%5.0%-7.2%-22.6%-24.7%-3.4%28.5%-10.0%-3.4%
สิงคโปร์3.6%13.4%56.3%29.5%-2.2%-15.4%-2.3%-21.2%-3.8%-2.3%
อินโดนีเซีย3.6%15.8%38.0%38.5%10.8%-16.1%1.9%-3.0%5.2%1.9%
ตะวันออกกลาง3.8%22.8%14.7%28.8%37.7%13.0%15.2%23.7%3.0%15.2%
อินเดีย3.7%22.6%33.1%60.3%13.6%-6.1%3.7%3.9%2.4%3.7%
ฟิลิปปินส์2.6%4.4%8.9%23.8%5.1%-15.5%3.7%12.4%-2.9%3.7%
แอฟริกา2.3%-5.9%-1.6%12.4%-6.3%-23.3%8.8%11.2%2.1%8.8%
เกาหลีใต้2.2%8.4%23.2%14.0%7.8%-10.3%-0.4%-7.0%4.7%-0.4%
ไต้หวัน1.6%0.8%9.7%8.1%-2.6%-11.3%-2.6%-5.8%4.0%-2.6%
อาเซียน-925.0%10.4%16.8%19.0%19.2%-10.9%-3.9%-5.8%-2.6%-3.9%
อาเซียน-514.2%9.5%27.0%23.1%11.9%-17.6%-2.2%-6.4%-2.1%-2.2%
อินโดจีน-410.9%11.5%4.9%14.1%30.1%-0.9%-6.3%-4.9%-3.5%-6.3%

5.   เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยด้านอุปทาน ปรับตัวดีขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาคการเกษตร สะท้อนจากดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม ในเดือนมีนาคม 2566 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 9.9 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 1.2 จากการเพิ่มขึ้นของผลผลิตสำคัญ อาทิ ยางพารา หมวดไม้ผล และหมวดปศุสัตว์เป็นต้น

สำหรับภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม ในเดือนมีนาคม 2566 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 97.8 ซึ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี จากระดับ 96.2 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบของดัชนีฯ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของอุปสงค์ในประเทศ และการขยายตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ยังมีปัจจัยกดดันจากอุปสงค์ของต่างประเทศที่ชะลอตัว

สำหรับภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนมีนาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 2.22 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 953.0 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ 22.4 โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย จีน รัสเซีย อินเดียและเกาหลีใต้ ตามลำดับ

เครื่องชี้เศรษฐกิจด้านอุปทาน256525652566
Q1Q2Q3Q4Q1ก.พ.มี.ค.YTD
ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรกรรม (%YoY)1.8%3.1%4.2%−3.5%3.0%7.4%8.7%9.9%7.4%
%qoq_SA / %mom_SA0.2%1.9%−3.2%4.1%5.2%3.7%1.2% 
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม
(%
YoY)
0.4%1.4%−1.1%7.7%−6.0%n.a.−2.7%n.a.-3.8%
%qoq_SA / %mom_SA−0.4%−0.5%−0.1%−5.1%n.a.2.1%n.a. 
อัตราการใช้กำลังการผลิต (%)62.8%66.8%61.2%62.8%60.3%n.a.61.9%n.a.62.0%
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ)89.388.085.690.493.196.096.297.896.0
นักท่องเที่ยวต่างชาติ (%YoY)2,506.6%2,365.5%7,704.0%7,847.7%1,497.8%1,202.4%1,283.3%953.0%1,202.4%
%qoq_SA / %mom_SA9.3%957.1%33.1%2.3%-12.1%22.9%22.4% 
จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย
(%
YoY)
181.7%72.2%400.4%1,169.3%83.4%n.a.31.8%n.a.38.9%
%qoq_SA / %mom_SA75.3%64.4%-3.0%-34.0%n.a.8.9%n.a. 

6. เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี และแรงกดดันจากระดับราคาสินค้าลดลงต่อเนื่อง สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 2.83 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 1.75

ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ร้อยละ 61.1 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 และผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ ในเดือนมีนาคม 2566 อยู่ที่ร้อยละ 0.69 ของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ทั้งหมด สำหรับเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 อยู่ในระดับสูงที่ 224.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เครื่องชี้ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ256525652566
Q1Q2Q3Q4Q1ก.พ.มี.ค.YTD
ภายในประเทศ         
อัตราการว่างงาน (%)1.3% 1.5%1.4%1.2%1.2%n.a.0.9%n.a.1.1%
ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ (%ต่อจํานวนผู้ประกันตน ม.33)0.57%0.61%0.52%0.62%0.52%0.60%0.57%0.69%0.60%
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (%YoY)6.08% 4.74%6.46%7.29%5.81%3.88%3.79%2.83%3.88%
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY)2.50% 1.44%2.26%3.08%3.21%2.23%1.93%1.75%2.23%
หนี้สาธารณะต่อ GDP(%)61.0%60.6%61.0%60.5%61.0%n.a.61.1%n.a.61.1%
ภายนอกประเทศ         
ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)-16.9−2.4−8.0-7.71.2n.a.1.3n.a.-0.8
ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)216.6242.4222.3199.4216.6224.5217.4224.5224.5
ฐานะสุทธิ Forward (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)29.230.528.728.729.227.127.227.127.1

ตารางที่ 1 เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ (Economic Indicators) ในเดือนมีนาคม 2566

เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ รายเดือน256525652566
Q1Q2Q3Q4Q1ก.พ. มี.ค.YTD
ภาวะเศรษฐกิจภายนอก         
ราคาน้ำมันดิบ Dubai (ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล) /796.0495.4107.8496.184.8380.2981.7478.2880.29
อัตราดอกเบี้ย Federal Fund (%)/74.25-4.500.25–0.501.50–1.753.00–3.254.25-4.504.75-5.004.50–4.754.75-5.004.75-5.00
ด้านอุปสงค์         
การบริโภคภาคเอกชน         
ภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาคงที่ (%YoY)/16.414.07.17.3-2.0-0.5−1.5-0.9-0.5
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่ง (%YoY)/135.316.09.216.2−14.82.310.1-0.22.3
ปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ (%YoY)/1212.03.26.038.56.313.59.820.113.5
ปริมาณการนำเข้าสินค้าอุปโภคในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY) /14−1.45.60.9−0.6−10.6-2.7-1.9-1.7-2.7
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจโดยรวม (ระดับ) /543.943.440.843.647.952.752.653.852.7
การลงทุนภาคเอกชน    
ปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY)/14-1.28.13.6−4.7-10.7-5.6-1.5-2.2-5.6
ปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์  (%YoY)/1315.220.69.737.5-0.2-10.2-10.0-12.6-10.2
ภาษีจากการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์รวม  (%YoY) /113.4−1.818.421.914.619.313.729.019.3
ปริมาณจำหน่ายปูนซีเมนต์ (%YoY) /14-2.50.0−7.82.8-4.7-3.3-4.3-0.3-3.3
ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง (%YoY) /45.77.26.95.63.42.22.60.62.2
การค้าระหว่างประเทศ    
มูลค่าการส่งออก (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ); ระบบศุลกากร/4287.173.675.572.265.870.322.427.770.3
(%YoY) /45.514.710.76.6−8.5-4.5−4.7-4.2-4.5
ราคาสินค้าส่งออก  (%YoY) /44.23.95.14.43.12.02.10.92.0
ปริมาณการส่งออก  (%YoY)/141.310.35.32-11.3-6.2−6.7-5.1-6.2
มูลค่าการนำเข้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ระบบศุลกากร/4303.273.779.880.968.873.323.524.973.3
(%YoY) /413.617.021.820.2−3.3-0.51.1-7.1-0.5
ราคาสินค้านำเข้า  (%YoY) /411.112.614.111.26.72.02.6-1.72.0
ปริมาณการนำเข้า (%YoY)/142.23.96.78.1−9.3-2.7−1.4-5.6-2.4
ดุลการค้า (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ);ระบบศุลกากร/4-16.1−0.1−4.3-8.7-3.0-3.0−1.12.7-3.0
ด้านอุปทาน         
ภาคการเกษตร         
ดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตร (%YoY) /61.83.14.2−3.53.07.48.99.97.4
ดัชนีราคาสินค้าเกษตร  (%YoY)  /611.64.510.120.112.9-1.34.2-8.7-1.3
รายได้เกษตรกรที่แท้จริง (%YoY) /147.12.57.67.99.82.39.0-2.52.3
การจ้างงานภาคเกษตร (%YoY) /3−0.63.4−0.4−1.9−2.9-1.13.1n.a.-1.1
ภาคอุตสาหกรรม         
ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (%YoY) /90.41.4−1.17.7−6.0n.a.−2.7n.a.−3.8
มูลค่าการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY)/48.37.316.216.6−6.8-7.4-10.51.5-5.3
ปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบในรูปดอลลาร์สหรัฐ (%YoY) /143.20.29.312.1−9.0-10.6-12.8-0.5-7.9
อัตราการใช้กำลังการผลิต (%) /962.866.861.262.860.3n.a.61.9n.a.62.0
การจ้างงานภาคอุตสาหกรรม (%YoY) /34.91.83.96.47.9n.a.0.3n.a.1.6
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม (ระดับ)/889.388.085.690.493.196.096.297.896.0
ภาคบริการ         
จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศ(ล้านคน)/1011.150.501.583.615.466.482.11 2.226.48 
(%YoY)  /142,506.62,366.07,704.07,847.71,497.81,202.4 1,283.3953.01,202.4 
จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย (%YoY)/10181.772.2400.41,169.383.4n.a.31.8n.a.38.9
การจ้างงานภาคบริการ (%YoY) /36.84.05.69.58.4n.a.4.4 n.a.3.4 
เครื่องชี้ภาวะเศรษฐกิจ256525652566
รายเดือนQ1Q2Q3Q4Q1ก.พ.มี.ค.YTD
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจต่างประเทศ          
อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย (บาท/ดอลลาร์สหรัฐ)/2 35.033.134.436.436.233.834.034.533.8
ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)/2 -16.9−2.4−8.0-7.71.2n.a.1.3n.a.-0.8
ทุนสำรองทางการ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)/2 216.6242.4222.3199.4216.6224.5217.4224.5224.5
ฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ (พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)/2 29.230.528.728.729.227.127.227.127.1
เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ    
อัตราการว่างงาน (%) /31.31.51.41.21.2n.a.0.9n.a.1.1
ผู้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานรายใหม่ (%ต่อจํานวนผู้ประกันตน ม. 33)0.570.610.520.620.520.600.570.690.60
ดัชนีราคาผู้ผลิต  (%YoY)  /410.49.813.311.17.30.71.6-1.70.7
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป  (%YoY)  /46.084.746.467.295.813.883.792.833.88
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (%YoY)  /42.501.442.263.083.212.231.931.752.23
หนี้สาธารณะต่อ GDP(%) /161.060.661.060.561.0n.a.61.1n.a.61.1
ภาคการคลัง (ปีงบประมาณ)/1FY2565FY2565 FY2565 FY2565 FY2565 FY2566 FY2566 FY2566 FY2566 YTD/FY 2566
Q1Q2Q3Q4Q1/66Q2/66ก.พ. 66มี.ค.
รายจ่ายปีปัจจุบัน (พันล้านบาท)/12,932.5983.6606.3679.2663.3982.2709.8243.5248.31,692.0
(%YoY) /1−2.64.8−1.10.3−15.4-0.117.161.0-8.86.4
รายจ่ายประจำ (พันล้านบาท)/12,516.5886.6515.2570.8543.8858.7600.5208.7200.81,459.3
(%YoY) /1−2.62.4−2.13.2−14.9-3.116.671.913.24.1
รายจ่ายลงทุน (พันล้านบาท)/1415.997.091.0108.4119.5123.4109.234.747.4232.6
(%YoY) /1−2.932.95.0−12.3−17.527.320.016.715.923.8
รายจ่ายปีก่อน (พันล้านบาท)/1213.675.557.631.848.758.944.512.816.2103.4
(%YoY) /18.7-5.36.418.736.1-22.0-22.7-26.7-24.4-22.3
รายจ่ายรวม (พันล้านบาท)/13,146.21,059.1663.9711.0712.01,041.1754.3256.4264.61,795.4
(%YoY) /1−2.04.0−0.51.0−13.1-1.713.651.9-10.04.2

ที่มา: 1/กระทรวงการคลัง 2/ธนาคารแห่งประเทศไทย 3/สำนักงานสถิติแห่งชาติ 4/กระทรวงพาณิชย์ 5/มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย 6/สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 7/Reuters 8/สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย 9/สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม 10/กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

11/ กรมจัดเก็บประกอบด้วยกรมสรรพากร กรมสรรพสามิตและกรมศุลกากร 12/กรมการขนส่งทางบก 13/บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด 14/คำนวณโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง

error: Content is protected !!