fbpx
News update

“Social Value Leader Award” เชิดชู “ผู้นำสร้างคุณค่าทางสังคม”

Onlinenewstime.com : SOCIAL VALUE THAILAND ได้ดำเนินการคัดเลือกองค์กรและบุคลากร ที่ให้ความสำคัญต่อการทำเพื่อสังคม ตลอดจนประยุกต์และพัฒนากรอบการบริหารจัดการให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ที่มีผลงานโดดเด่นต่อการส่งเสริมคุณค่าเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด

ทั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้วงการต่างๆ เห็นความสำคัญของการยกระดับแนวคิด การปรับกระบวนทัศน์ และการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญใน “คุณค่าทางสังคม” ทั้งในระดับนโยบาย เพื่ออำนวยการส่งเสริมการบูรณาการในการวางแผน พัฒนากลยุทธ์ กระบวนการจัดสรรงบประมาณที่เอื้อต่อการสร้างระบบนิเวศ ที่ให้แต้มต่อกับการสร้างคุณค่าทางสังคม

ตลอดจนบทบาทการกำกับดูแลที่กระตุ้น สนับสนุนให้หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ร่วมบรรลุสัมฤทธิ์ผลทางสังคมได้อย่างแท้จริง ตลอดจนเห็นความสำคัญในระดับปฏิบัติ ที่ส่งเสริมการนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง เกิดการเรียนรู้ ต่อยอดขยายผลร่วมกันในภาคีเครือข่าย

นอกจากนั้น สถาบัน Social Value Thailand ยังได้พัฒนาเครือข่าย แบบมีส่วนร่วม พลิกกติกาใหม่ทางสังคมเพื่อนำไปสู่ “การเปลี่ยนวิถีในการร่วมรับผิดรับชอบและมีส่วนในการสร้างกำไรทางสังคม” ด้วยการร่วมนำร่องการปฏิบัติและส่งเสริมผู้นำการบุกเบิกเพื่อการพัฒนาสื่อสารอย่างต่อเนื่อง

โดย 2 องค์กรชั้นนำ และ 7 บุคคลสำคัญ ได้มีบทบาทร่วมสร้างสรรค์พัฒนาคุณประโยชน์คุณาประการแก่การดำเนินงานร่วมกับ Social Value Thailand โดยสถาบันฯ ได้จัดพิธีมอบรางวัล “Social Value Leader Award 2020” เป็นครั้งแรก ในงาน Social Value matters 2020 : Bangkok เพื่อเป็นตัวอย่างให้สังคมระลึกถึงความสำคัญใน “การทำเรื่องสังคมให้สำคัญ”

ผู้รับรางวัลในระดับองค์กร ได้แก่

1. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน)
มีความโดดเด่นในโครงการ “Social Innovation Village” ที่ได้เผยแพร่ “นวัตกรรมสังคม” สู่การแก้ไขร่วมพัฒนาในเชิงพื้นที่ ตลอดจนได้นำกรอบการวางแผน ประเมินผลตอบแทนทางสังคม SROI นำร่องและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในพื้นที่จังหวัดน่านและจังหวัดพัทลุง ตลอดจนส่งเสริมการให้ความรู้ความเข้าใจ แก่เจ้าหน้าที่องค์กร ตลอดจนผู้นำชุมชนและนักวิจัย เพื่อนำเป็นแนวทางประยุกต์ติดตามผลลัพธ์ ต่อเนื่องสู่ปีที่ 3 ในการเริ่มพัฒนาระบบ SROI CALCULATOR เป็น web-base application ที่จะช่วยให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาเอื้อต่อการติดตามประเมินผลในโครงการเพื่อสังคมในการขยายผลต่อไป

2. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.)
นับเป็นรัฐวิสาหกิจแห่งแรก ที่นำร่องกรอบการประเมิน SROI ในการให้บริการหลักขององค์กร (Core business operation) ซึ่งเป็นการส่งเสริม ให้ผู้บริหารบุคลากรภายใน ตลอดจนองค์กรผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สคร. สนข. กทม. ผู้รับสัมปทาน ฯลฯ ได้ตระหนักถึงกรอบเครื่องมือที่จะช่วยพัฒนา “คุณค่าทางสังคม” ร่วมกัน

ผู้รับรางวัลระดับบุคคล ได้แก่

1. ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ
สมาชิกวุฒิสภาไทย
อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ที่ได้ริเริ่มผลักดันการพัฒนาโครงสร้างของมหาวิทยาลัย เพื่อรองรับการจัดตั้ง คณะบริหารธุรกิจเพื่อสังคม และส่งเสริมการเปิดหลักสูตร “บริหารธุรกิจเพื่อสังคม” เป็นครั้งแรก เพื่อสร้างคน ที่มีทั้งความสามารถ และความเข้าใจการบริหารจัดการทั้งทางธุรกิจและสังคม
ท่านยังเป็นผู้ส่งเสริม และขับเคลื่อนนโยบาย และพ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม ตลอดจนส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษา และเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจ ตลอดจนความสำคัญของมิติทางสังคม ให้แก่ผู้นำระดับสูงของประเทศทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคมอย่างต่อเนื่อง

2. ดร.สุวัฒน์ ทองธนากุล
บรรณาธิการ Green Innovation & SD / Manager Online
เป็นสื่อมวลชน นักวิชาการ ที่มีบทบาทส่งเสริมความรู้และการสื่อสาร เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานแรกๆ ของประเทศ ตลอดจนได้สนับสนุนกิจกรรมการสร้างความตระหนักรู้ สร้างความสำคัญในการบริหารเชิงผลสัมฤทธิสังคมอย่างต่อเนื่อง

3. ดร. ศิริกุล เลากัยกุล
Country director of Sustainable Brands Thailand
เป็นผู้ขับเคลื่อน และน้อมนำหลักคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาส่งเสริมการสร้าง Brand ที่ยั่งยืนให้แก่องค์กรชั้นนำของประเทศ ตลอดจนเครือข่ายกลุ่มผู้ประกอบการ/แบรนด์ต่างๆ เพื่อส่งเสริมพลังในการพัฒนาสังคมร่วมกันของแบรนด์
นอกจากนั้น ยังได้ริเริ่มโครงการ Chef for Chance เพื่อนำพลังของบรรดา Chef และร้านอาหารมาช่วยเหลือสังคมในช่วงวิกฤตโควิด – 19 ในระยะเวลา 32 วัน ได้สร้างผลลัพธ์ในการระดมทุน และจัดทำอาหาร เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และชุมชนด้อยโอกาสมากกว่า 50,000 มื้อ ใน 7 โรงพยาบาล 4 ชุมชน และเกิดผลตอบแทนทางสังคมกว่า 10 เท่า

4. ดร.อำพล อาภาธนากร
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
เป็นผู้ร่วมบุกเบิกสร้างความเข้าใจแก่ทั้งผู้บริหาร ผู้นำและเจ้าหน้าที่ภายในองค์กร ตลอดจนเป็นบุคคลที่ส่งเสริมการนำ SROI ลงพื้นที่ในชุมชน เพื่อปรับกรอบกระบวนการให้ทุนให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด

5. ดร. สันติ เติมประเสริฐสกุล
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ในฐานะ Standard Advisory Council กับการร่วมพัฒนากรอบมาตรฐานในการประเมินติดตามผลอย่างถูกต้อง ตลอดจนความร่วมมือในการดำเนินโครงการวิจัย “ตัวชี้วัดทางสังคมและแนวทางการประเมินมูลค่า” ที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการสนับสนุนรากฐานในการดำเนินงานของสถาบันอย่างเข้มแข็งต่อไป

6. ผศ.ดร.ปภากร พิทยชวาล
ผู้อำนวยการเทคโนธานี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี
มีการนำกรอบมาตรฐานการประเมินติดตามผลลัพธ์ทางสังคม มาบูรณาการสร้างความเข้าใจให้กับผู้บริหาร คณาจารย์เจ้าหน้าที่ในสำนักงาน และส่งเสริมศักยภาพ ของสถาบันการศึกษาไปสู่การประเมิน และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายให้แก่โครงการระดับประเทศ ได้แก่ “โครงการ Innovation Hubs เพื่อสร้างเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมของประเทศ ตามนโยบายประเทศไทย 4.0” ที่ทำงานร่วมกับเครือข่ายอุดมศึกษาทั้ง 9 แห่ง ของสกอ. ในการพัฒนาโจทย์วิจัยกลุ่มเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy Hub) และจัดทำข้อเสนอโครงการวิจัยที่มีศักยภาพ สามารถตอบโจทย์ความต้องการ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์เพิ่มมูลค่าบริการให้กับสังคมอย่างแท้จริง

7. ผศ. ดร.ปัทมา ล้อพงค์พานิชย์
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบล
เป็นผู้ขับเคลื่อนการนำงานวิชาการ ไปสู่การพัฒนาวงการสาธารณสุขไทย ตลอดจนได้นำร่องการนำกรอบการประเมินผลลัพธ์ทางสังคม (SROI) ไปผสานกับกรอบการประเมินความคุ้มค่าของสวัสดิการทางการแพทย์และพยาบาลในกรณี “Social Return on Investment For Patient Treated By Continuous Ambulatory Peritoneal Dialysis: A Case Study In Ubon Ratchathani Province, Thailand” ซึ่งนับเป็นการเผยแพร่งานวิจัย ที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ป่วยโรคไต และเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ต่อยอดในวงการสาธารณสุขไทย

สถาบันเชื่อในพลังของ “ผู้นำการเปลี่ยนแปลง” และหวังว่าจุดเริ่มต้นของการจัดพิธีมอบรางวัล “ Social Value Leader Award 2020” เป็นปีแรกครั้งนี้ จะนำไปสู่ความภาคภูมิใจ การส่งเสริมให้เกิดการขยายผลต่อยอดสู่เครือข่ายองค์กร หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคสังคมและผู้นำในหลากหลายสาขาอาชีพ ให้ร่วมผนึกกำลังในการสร้างจุดยืนทางสังคม นำไปสู่การขยายผลกำไรทางสังคมอย่างเท่าทวีคูณ

และในปี 2021 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพงาน “Social Value International Conference” จะนับเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์สำคัญ และหวังว่าจะเกิดการขยายบทบาท ครอบคลุมกว้างขวาง และมีส่วนร่วมในการพิจารณาคัดเลือกรางวัลอันทรงเกียรตินี้ต่อไป

error: Content is protected !!