
Onlinenewstime.com : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดบ้านเชิญผู้ประกอบการ เข้าสัมผัสโครงการสนับสนุนมากกว่าสิบโครงการ พร้อมเชิญ SME แบรนด์ไทย ที่เคยได้รับการสนับสนุนและประสบความสำเร็จร่วมส่งพลังบวกและแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ จุดประกายการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์ เล็งผลเพิ่มมูลค่าการค้าให้ประเทศไทย ในงาน DITP Design Open House
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า งานเสวนาเพื่อสร้างความเข้าใจในการสร้างแบรนด์ไทยบนเวทีการค้าโลก (Value Creation Day: DITP Design Open House) เป็นหนึ่งในการดำเนินงานของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเพื่อบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน
เพื่อช่วยผู้ประกอบการให้สามารถนำเอาอัตลักษณ์ และนวัตกรรมที่ต่อยอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิม มาสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดกระบวนการ รองรับอุตสาหกรรมในอนาคต และตอบสนองความต้องการของตลาด ทั้งในและต่างประเทศได้อย่างยั่งยืน
“โครงการเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการของกรมส่งเสริมฯ มีอยู่หลากหลายโครงการและครอบคลุม รอบด้าน ตั้งแต่การคิด การออกแบบ การผลิต การสร้างแบรนด์ในเชิงสร้างสรรค์ ไปจนถึงการทำการตลาด วิเคราะห์แนวโน้มของตลาดโลก เพื่อสร้างมูลค่าและอัตลักษณ์ที่ชัดเจน โดดเด่นให้กับแบรนด์ของผู้ประกอบการ
โดยแต่ละโครงการ จะเหมาะกับผู้ประกอบการแต่ละราย หรือแต่ละขั้นของการเป็นผู้ประกอบการ ซึ่งหากผู้ประกอบการได้ทำความรู้จัก และเข้าใจโครงการต่างๆ จะเลือกเข้ารับบริการ หรือรับการสนับสนุนได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การพัฒนาที่รวดเร็ว ตรงจุด และก้าวหน้าไปได้ตามที่ตั้งใจไว้” นายสมเด็จ กล่าว

ภายในงานได้เชิญผู้ประกอบการ ที่เคยเข้าร่วมกิจกรรมสนับสนุนในโครงการของกรม มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ได้แก่ แบรนด์ Rubber Killer แบรนด์ Theptex แบรนด์ Diamondfresh และแบรนด์ THINKK STUDIO
โดยผู้ประกอบการทั้ง 4 รายต่างมีความเป็นมาที่แตกต่างกัน ทั้งการเป็นนักออกแบบ ผู้ประกอบการด้านสินค้าเกษตร และ ผู้ประกอบการผลิตสินค้ายางพารา เคยได้เข้าร่วมกิจกรรมของกรมมากกว่า 1 โครงการ และให้ความเห็นว่า การเข้าร่วมกิจกรรมของกรม เป็นเสมือนการติดอาวุธด้านความรู้ที่ไม่เคยได้จากที่ใด
ตลอดจนการสนับสนุนให้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า และเจรจาธุรกิจการค้าทั้งในและต่างประเทศ ทำให้ผู้ประกอบการ ได้เติมเต็มทักษะที่ตนอาจไม่มีมาก่อน เช่น ทักษะด้านการเจรจา องค์ความรู้ในการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ มุมมองทางการตลาด และความเข้าใจในความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการได้กลับมาพัฒนาแบรนด์ให้แข็งแรง และประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น และนอกจากนี้ การเข้าร่วมกิจกรรมของกรม ยังทำให้ได้เครือข่ายทางธุรกิจกับผู้ประกอบการรายอื่น ที่จะสามารถช่วยเหลือกันได้ ถือเป็นการเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจอีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการทั้งสี่ราย ยังได้สนับสนุนให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ติดตามข่าวสาร เพื่อพิจารณาเลือกโครงการสนับสนุนจากกรม ที่เหมาะกับธุรกิจของตนเอง และนำองค์ความรู้ เครือข่าย ตลอดจนโอกาสในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆไปพัฒนาแบรนด์ไทย ให้มีมูลค่าสูง เกิดการขับเคลื่อนสร้างมูลค่าทางการค้า เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้สูง